สิ้นสงสัยเหตุกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ตั้ง “นิตินัย ศิริสมรรถการ” อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย เป็นแม่ทัพใหญ่ซีอีโอ ที่แท้หวังใช้สายสัมพันธ์กรุยทางสู่การแก้ไขสัญญาสัมปทาน อ้างวิกฤติเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวทรุดยังไม่คลี่คลาย บริษัทต้องจ่ายค่าต๋งสูงกว่าประกันรายได้ขั้นต่ำทำขาดทุนบักโกรก วงในชี้เผือกร้อนเอื่อเอกชน ใครแตะมีหวังพาเหรดขึ้นเขียงปปช.
หลังจากบริษัทคิง เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้แจ้งการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของทีมผู้บริหาร โดยประกาศแต่งตั้ง นายนิตินัย ศิริสมรรถการ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)หรือ AOT ถึง 2 สมัยเข้ารับตำแหน่ง CEO- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทน “นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ที่ก้าวขึ้นไปเป็นประธานกรรมการบริหารหรือ Executive Chairman กลุ่ม King Power Group โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2568 เป็นต้นมา
ท่ามกลางกระแสวิพากษ์จากหลายภาคส่วนถึงการจัดทัพใหม่ของกลุ่มคิงเพาเวอร์ในครั้งนี้ ที่กำลังอยู่ในช่วงระส่ำ ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งร้องขอขยายจ่ายค่าสัมปทาน “ดิวตี้ฟรี”ให้ ทอท.ออกไปถึง 18 เดือนโดยอ้างได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ยังไม่คลี่คลาย
ล่าสุดมีกระแสสะพัดออกมาว่า บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ผู้รับสัมปทานประกอบกิจการร้านค้าปลอดอาการในท่าอากาศยานภูธร 3 แห่ง (ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ภูเก็ต และหาดใหญ่) ได้ยื่นข้อเรียกร้องขอแก้ไขสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรีใน 3สนามบิน พร้อมทางเลือกในการเลิกสัญญา โดยระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวยังไม่คลี่คลาย ทั้งยังมีเหตุสงครามในหลายภูมิภาค สงครามการค้า และการกีดกันทางการค้า กำแพงภาษี การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งผู้โดยสารจีนที่มีกำลังซื้อสูงลดลง ทำให้ยอดขายลดลง เหตุสุดวิสัยทั้งหมดข้างต้นไม่ใช่ความผิดของบริษัท แต่ส่งผลต่อยอดจำหน่ายและการประกอบการ ทำให้ค่าตอบแทนที่บริษัทต้องจ่ายให้ ทอท.อยู่ในเกณฑ์สูงกว่าที่ควรจะเป็นทำให้คิงเพาเวอร์ประสบกับภาวะขาดทุน บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นต้องขอหารือร่วมทั้งสองฝ่ายเพื่อหาข้อยุติของปัญหา รวมไปถึงแนวทางพิจารณาเลิกสัญญาเพื่อให้ได้ข้อยุติภายใน 45 วัน
ย้อนรอยสัมปทานดิวตี้ฟรี 3สนามบินภูธร
AOT เปิดประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีใน 3 สนามบินภูมิภาค (ภูเก็ต,เชียงใหม่ และหาดใหญ่) เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2562 โดยมีบริษัทเอกชนเข้าซื้อซองข้อเสนอรวม 4 ราย แต่เข้ายื่นข้อเสนอรวม 3 รายได้แก่ 1. บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด(KPD) 2.กิจการร่วมค้าการบินกรุงเทพ- ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี(ท่าอากาศยานภูมิภาค) และ 3. บริษัทโรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย)ในนามกิจการร่วมค้ารอยัลออคิด เอ็มไพร์ เอเชียและ WDFG UK LIMITED
ผลการเปิดซองข้อเสนอเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2562 บริษัท KPD เป็นผู้ชนะประมูลเพราะเสนอผลตอบแทนแก่ AOTสูงสุดและสูงกว่าที่ AOT ประเมินไว้เป็นเท่าตัวโดยมีการลงนามในสัญญาตามสัญญาที่ทอท.DF-1-02/2562 ลงวันที่ 4 ก.ค. 2562 มีอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย. 2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค.2574 กำหนดผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำปีแรก 2,331 ล้านบาท และมีการแก้ไขสัญญา 2 ครั้งจากผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 โดยปรับอายุสัญญาเป็นตั้งแต่ 28 ก.ย. 2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2576
ไม้ตาย Minimum Garuntee ทิ่มแทงตัวเอง
แหล่งข่าวระบุว่า การกำหนดหลักประกันขั้นต่ำ Minimum Garuntee สัมปทานร้านค้าปลอดอากรข้างต้นเป็นข้อเสนอเพิ่มเติมของบริษัทที่ทำให้เอาชนะคู่แข่งในเวลานั้นได้ ทั้งที่ไม่ควรกำหนดมาตั้งแต่ต้น แต่เพราะกลุ่มคิงเพาเวอร์ต้องการเอาชนะคู่แข่งในเวลานั้น จึงเพิ่มเติมเงื่อนไขดังกล่าวในซองข้อเสนอ และกระทำกับการปนะมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีในทุกสนามบิน ไม่ว่าจะดิวตี้ฟรีในท่าอากาศยานดอนเมือง หรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.)
เมื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวตกต่ำปริมาณผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ทำให้ผลประโยชน์รายปีที่บริษัทต้องจ่ายแก่ AOT ต่ำกว่า Minimum Garuntee บริษัทจึงเคลื่อนไหวเรียกร้องขอเจรจาแก้ไขสัญญาและถึงขั้นพร้อมจะถอนสมอเลิกสัญญาสัมปทานใน3สนามบินข้างต้น
“หากไม่มีข้อกำหนด Minimum Garuntee ค่าสัมปทานที่คิงเพาเวอร์จ่ายแก่รัฐก็จะปรับไปตามสถานการณ์ท่องเที่ยวที่เป็นอยู่แต่เพราะความมั่นใจว่าไม่มีผู้ประมูลรายใดกล้าใส่ข้อเสนอนี้เพิ่มเติมจึงทำให้คิงเพาเวอร์เพิ่มข้อเสนอดังกล่าวไว้ในสัญญาสัมปทานและเอาชนะคู่แข่งรายอื่นไปในที่สุด”
ยึดแบงก์การันตี-ประมูลสัมปทานใหม่
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวกล่าวว่า ในส่วนของ AOT คงยากที่จะยินยอมแห่ไขสัญญาให้ เพราะเป็นเงื่อนไขผูกมัดในสัญญาไปแล้ว อีกทั้ง ที่ผ่านมา AOT ได้ดำเนินมาตรการเยียวยาที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจะไวรัสโควิดให้แก่ผู้ประกอบการที่มีสัญญาทุกรายไปแล้ว ทั้งการขยายสัญญาสัมปทาน การปรับเกณฑ์การคำนวณค่าสัมปทานที่สะท้อนปริมาณผู้โดยสารที่แท้จริง รวมทั้งล่าสุดการยืดเวลาจ่ายค่าสัมปทานให้ผู้ประกอบการไปถึง 18 เดือน ซึ่งมาตรการเยียวยาที่ให้ไปนั้น ผู้ประอบการแต่ละรายได้ผลประโยชน์ถ้วนหน้าไปแล้ว
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า หากบริษัทไม่สามารถจ่ายค่าสัมปทานได้ตามกำหนด หรือมีเหตุให่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได่ ทอท.สามารถที่จะริบแบงก์การันตีจำนวน 13,000 ล้านบาท รวมทั้งเปิดประมูลหาเอกชนรายใหม่เข้ามาดำเนินกิจการร้านปลอดอากร”ดิวตี้ฟรี”ในสนามบินภูธรทั้ง3แห่งได้โดยไม่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างให้เอกชน
“ที่ผ่านมา AOTได้ดำเนินมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจและไวรัสโควิด-19 จนทำให้ราคาหุ้น AOTสาละวันเตี้ยงลงจนถูกผู้ถือหุ้นรายย่อยรวมหัวฟ้องมาแล้ว นี่ยังจะมาตังแต่เจรจาแก้ไขสัญญาสัมปทานเอื้อต่อเอกชนอีก ซึ่งหากดำเนินการสำเร็จหุ้น AOTจะยิ่งได้รับผลกระทบ”
ปัจจุบันราคาหุ้น AOTก็ตกต่ำอย่าหนักอยู่แล้ว ราคาหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมาต่ำกว่า 30 บาทอยู้ที่ 29.00 บาทไปแล้ว จากความกังวลในเรื่องผลประกอบการที่มีหากมีการเจรจาแก้ไขสัญญากับคิงเพาเวอร์จนส่งผลกระทบต่อรายได้หลักของAOTเชื่อแน่ว่า นักลงทุนและผู้ถือหุ้นคงไม่ยอมแน่