วันพุธ, มิถุนายน 25, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกค้น 3 จังหวัด ล่าบริษัทนอมินีจีน ปล่อยเช่าเครื่องจักรหนัก พบให้พนักงานคนไทยเป็นกรรมการฯ เงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท

Related Posts

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกค้น 3 จังหวัด ล่าบริษัทนอมินีจีน ปล่อยเช่าเครื่องจักรหนัก พบให้พนักงานคนไทยเป็นกรรมการฯ เงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ, พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.นิตติโชติ เพ็ญจำรัส รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิวิฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ. สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. นำโดย พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ติระพัฒน์ รอง ผกก.4 บก.ปอศ.,พ.ต.ท.สมชาย ศรพล รอง ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.รัฐพร คงสุโข รอง ผกก.4บก.ปอศ., พ.ต.ท.ภาคิน ไกรกิตติชาญ รอง ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.เชาวน์วุฒิ เลียบมา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย สว.กก.4 บก.ปอศ.,พ.ต.ท.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.ณัฐดนัย บำรุงศิลป์ สว.กก.4 บก.ปอศ. และ พ.ต.ต.หญิง ชนากานต์ นิรัมย์ สว.กก.4 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง กก.4 บก.ปอศ. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. นำโดย พ.ต.อ.นฤพนธ์ กรุณา ผกก.2 บก.ปอศ., พ.ต.ท.ชวพล เชื้อเพ็ชร์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วรรณลพ รัตนพงษ์ สว.กก.2 บก.ปอศ.,พ.ต.ต.นพคุณ ทัศนมาลัย สว.กก.2 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง กก.2 บก.ปอศ.

ร่วมกันตรวจค้น 1.สำนักงานใหญ่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร 2.สาขานวนคร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ3.สาขาระยอง จังหวัดระยอง
พร้อมตรวจยึด
1.หนังสือรับรองการขอจัดตั้งบริษัท 1 ชุด
2.รายการสต๊อกสินค้า 1 แฟ้ม
3.เอกสารการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ/เช่าซื้อในประเทศ 1 แฟ้ม
4.ใบส่ง-ส่งสินค้า ปี 2568 2 แฟ้ม
5.ใบส่งสินค้างานเช่า ใบรับสินค้าคืน 2 แฟ้ม
6.สำเนาเอกสารรถ 1 แฟ้ม
7.ใบเช่าใบรับสินค้า 3 แฟ้ม
8.เอกสารงบการเงินและรายงานของผู้สอบบัญชี 1 แฟ้ม
9.สมุดบัญชีธนาคาร 6 เล่ม
10.ตราประทับบริษัท จำนวน 9 อัน

ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ดังต่อไปนี้
1.นิติบุคคล จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย
-นิติบุคคลสัญชาติจีน จำนวน 1 ราย
-นิติบุคคลสัญชาติไทย จำนวน 1 ราย
2.บุคคล จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย
-นายเหวย (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี สัญชาติจีน
-นางสาว ปุณณดา (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี บุคคลสัญชาติไทย
-นางสาว ณัฐรดา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี บุคคลสัญชาติไทย
เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน “พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542”

พฤติการณ์ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ตรวจสอบพบบริษัทต้องสงสัยว่าเข้าข่ายกระทำความผิดในลักษณะนำบุคคลสัญชาติไทยมาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วนของคนไทยแทนคนต่างด้าว เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยกลุ่มผู้ต้องหาได้ประกอบธุรกิจในลักษณะการนำเข้า และให้เช่า เครื่องจักรหนัก รถเครน และรถยก เพื่อเลี่ยงข้อกฎหมาย

ต่อมา กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ทำการสืบสวนสอบสวน พบว่า โครงสร้างของกลุ่มบริษัท มีการนำนิติบุคคลมาถือหุ้นในสัดส่วนของผู้ถือหุ้นของคนไทย โดยบริษัทดังกล่าวมีการจดจัดตั้งบริษัทขึ้นมาเป็นโฮลดิ้ง แต่ไม่ได้ประกอบธุรกิจใดๆ ซึ่งบริษัทมีความเกี่ยวพันกันทั้งในด้านโครงสร้างผู้ถือหุ้น กรรมการ และเส้นทางการเงิน ในส่วนของผู้ถือหุ้นคนไทย จำนวน 2 ราย ไม่มีบทบาทในการบริหาร และน่าเชื่อว่าไม่ได้ลงทุนจริง โดยทั้ง 2 รายเป็นพนักงานของบริษัท และเมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัทพบว่า มีการรับโอนเงินจากนายทุนจีนมาลงทุน เป็นเงินกว่า 50 ล้านบาท และพบเงินหมุนเวียนในบัญชีของบริษัทกว่า 500 ล้านบาท จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเรื่อยมา

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นจับกุม ได้นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบริษัทและที่ตั้งของสาขาต่างๆ พร้อมกัน 3 จุด ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ระยอง และพระนครศรีอยุธยา พบเอกสารให้เช่าซื้อ และ เครื่องจักรหนักจากในและนอกประเทศ กว่า 250 คัน อาทิเช่น รถเครน รถยก และอื่นๆ จากการสอบถามพนักงานและกรรมบริษัท ผู้ถือหุ้นคนไทย ให้การยืนยันว่าบริษัทฯ ถูกบริหารโดยบุคคลสัญชาติจีนเป็นหลัก ทั้งยังพบการใช้คิวอาร์โค้ดของพนักงาน ในการรับเงินจากการเช่ารถเครน และเครื่องจักรหนักต่างๆ ทำให้เชื่อได้ว่า เป็นการกระทำที่อาจจะหลบเลี่ยงภาษีเงินได้ ทั้งนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลต่อไป

จากการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม กก.4 บก.ปอศ. พบว่า ในห้วงปี 2566-2567 หลังจากจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้ว บริษัทได้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าประเภท รถเครน และเครื่องจักรหนักอื่นๆ จากประเทศจีน โดยมีการนำเข้าเครื่องจักรหนักมาจากประเทศจีน เพื่อมาจำหน่ายและให้เช่าภายในประเทศไทย มีการโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก และการขยายสาขาอีกหลายแห่ง ทั้งในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดระยอง ซึ่งการประกอบธุรกิจนำเข้าเครื่องจักรเพื่อทำการขายภายในประเทศ หรือให้เช่าเครื่องจักรดังกล่าว เป็นธุรกิจที่ต้องได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แต่กลับมีการประกอบกิจการนำเข้าและจำหน่ายเครื่องจักร เช่น รถเครน และรถตัก ซึ่งเป็นธุรกิจที่คนไทยยังไม่พร้อมแข่งขันกับชาวต่างชาติ

จึงได้ดำเนินคดี กับบริษัท จำนวน 2 บริษัท และบุคคลทั้งสัญชาติจีนและสัญชาติไทย จำนวน 3 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ตามกฎหมาย

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้น โดยการนำเอาชื่อของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดไปก่อตั้งบริษัทให้กับบุคคลต่างชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชาวต่างชาติเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ภายในประเทศ อันส่งผลกระทบภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศและธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับประชาชนคนไทย ซึ่งจะมีความผิดทั้ง นิติบุคคลและผู้ให้ความช่วยเหลือ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ต.หญิง ชนากานต์ นิรัมย์ สว.กก.4 บก.ปอศ.
เบอร์ติดต่อ 095-3715448

“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts