วันพุธ, มิถุนายน 25, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมชาวบ้าน ต.เกรียงไกร นครสวรรค์ ร้อง กองปราบฯ กรณีแจ้งความเอาผิดกรมทางหลวงใช้รถขนาดใหญ่เข้าทำทาง ว่าบุกรุกที่ดิน 2 ปีไม่คืบหน้า

Related Posts

ชาวบ้าน ต.เกรียงไกร นครสวรรค์ ร้อง กองปราบฯ กรณีแจ้งความเอาผิดกรมทางหลวงใช้รถขนาดใหญ่เข้าทำทาง ว่าบุกรุกที่ดิน 2 ปีไม่คืบหน้า

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 มิย.68 ที่ หน้าแดนเนรมิตเก่า ริมฟุตบาทถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พร้อม ทนายเจส ณัฐปกรณ์ สุดชา พาชาวบ้าน ต.เกรียงไกร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ประมาณ 10 คนร้องพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กรณีถูกกรมทางหลวงเวรคืนที่ดินไปทำถนน โดยมีการบุกรุกเข้าที่ดินชาวบ้าน โดยที่ไม่ได้รับความยินยอม แจ้งความ สภ.บางม่วง ภ.จว.นครสวรรค์ ไปเกือบ 2 ปี คดีไม่คืบหน้า และการเวนคืนที่ดิน กรมทางหลวงยังค้างค่าต้นไม้ ที่จะต้องจ่ายให้ชาวบ้านกว่า 2 ล้านบาท ชาวบ้านได้รับความเดือนร้อนมาก จึงต้องมาร้องเรียนและร้องขอให้กองปราบฯ ช่วยเหลือในวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลุ่มชาวบ้านที่มาร้องผ่านจ่าคิงส์ครั้งนี้ เป็นชาวบ้านในตำบลเกรียงไกร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ นำโดย นางศรีนวล บุญยอด เคยรวมตัวเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อ ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดนครสวรรค์ , กรมทางหลวง ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งยื่นหนังสือร้องที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาโดยมี น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกฯ รับเรื่องไว้ตรวจสอบ รับปากจะให้คนลงไปตรวจสอบให้ดูแลให้ จากกรณีถูกเวนคืนที่ดินรวมๆ กว่า 68 ไร่ เพื่อก่อสร้างโครงการทางหลวงหมายเลข 122 สายทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ด้านตะวันออก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการขยายถนน 4 เลนเชื่อมต่อนครสวรรค์-เพชรบูรณ์ เมื่อปี 2556 โดยปัญหาดังกล่าวคาราคาซังมานานกว่า 11 ปี

ซึ่งชาวบ้านเจ้าของที่ดินที่ถูกเวรคืน นอกจากจะยื่นเรื่องร้องเรียนร้องทกข์หน่วยงานต่างๆ แล้ว ยังมีการใช้สิทธิฟ้องกรมทางหลวงผ่านศาลปกครอง จนคดีความถึงที่สุดศาลปกครองสูงสุดให้กรมทางหลวงเพิ่มเงินค่าเวนคืนที่ดินแก่ผู้ร้อง

แต่ปัญหาค่าต้นไม้ที่ปลูกในที่ดินยังไม่เป็นที่พอใจ ชาวบ้านอ้างว่า หัวหน้าแขวงการทางฯ คนก่อนที่ลาออกไป ให้ราคาสูงกว่าที่มีการจ่ายจริง และยังมีการให้เซ็นหนังสือสัญญาว่าจะไม่เอาความทั้งที่ชาวบ้านเจ้าของที่ดินอ่านหนังสือไม่ออก

ทั้งนี้ปัญหาที่ชาวบ้านร้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นค่าเวนคืนที่ดินที่ไม่เป็นธรรม ชาวบ้านมองว่าอัตราค่าทดแทนที่ดินที่ได้รับในราคาไร่ละ 30,000 – 88,000 บาทนั้นไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับพื้นที่ใกล้เคียงอย่างตำบลบ้านมะเกลือที่ได้รับค่าเวนคืนสูงถึงไร่ละ 390,400 บาท แม้จะถูกคั่นด้วยถนนชนบทเท่านั้น ชาวบ้านจึงเรียกร้องให้เพิ่มค่าเวนคืนเป็นไร่ละ 1 ล้านบาท ก่อนจะนำเรื่องไปฟ้องศาลปกครอง นอกจากนี้ค่าชดเชยต้นไม้และพืชไร่ที่ควรได้รับก็ยังไม่ครบถ้วนสำหรับทุกคน

การแก้ไขปัญหาที่มีความล่าช้า แม้ชาวบ้านจะยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครสวรรค์และกรมทางหลวงมาโดยตลอด แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ
ชาวบ้านกลุ่มนี้ยื่นร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัด นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมชูป้ายเรียกร้องความเป็นธรรม
ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 ชาวบ้านได้เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามทวงถามเรื่องการเวนคืนที่ดิน และล่าสุดได้ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เพื่อขอให้ทบทวนการจ่ายเงินค่าทดแทนทรัพย์สิน

ซึ่งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครสวรรค์ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับทราบปัญหา โดยกรมทางหลวงยืนยันว่าการดำเนินการเป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 และระเบียบกฎหมายโดยชอบแล้ว และไม่สามารถจ่ายค่าทดแทนเพิ่มได้อีก เนื่องจากผู้ร้องบางคนได้นำคดีขึ้นฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ซึ่งคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดจะมีผลผูกพันต่อทุกฝ่าย

ความหวังของชาวบ้าน การที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการอุทธรณ์เพื่อพิจารณาทบทวนเรื่องร้องเรียนอีกครั้ง สร้างความหวังให้กับชาวบ้านในการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts