วันที่ 1 ก.ค. 2568 ถือเป็นวันครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับไทย พินิจ จารุสมบัติ วัย 70 ปีกว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรีไทย และประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน ย้อนความทรงจำกับ สำนักข่าว “ซินหัว” ว่า ยังคงจดจำได้ว่าตอนเด็กๆ บ้านของเขามีโอ่งเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่เยอะมาก ครั้นถามคุณย่าว่าโอ่งเหล่านี้มาจากไหน คุณย่าก็บอกว่ามาจากประเทศจีน
ครอบครัวของพินิจ เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างจีนกับไทยมายาวนาน ตั้งแต่ส่งออกข้าวสารสู่ฮ่องกง จนถึงนำเข้าสินค้าอื่นๆ จากจีนสู่ไทย โดยพินิจบอกว่า ครอบครัวของเขา ทำการค้ากับจีนเยอะมาก โอ่งน้ำเหล่านี้ขนส่งตรงมาจากจีน หินที่ใช้ก่อสร้างบ้านบางส่วน ก็มาจากจีนเช่นเดียวกัน
ปัจจุบันบ้านของพินิจ ยังคงมีโอ่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ แม้โอ่งเหล่านี้ดูธรรมดา แต่สมัยนั้นถือเป็นของหายากในไทย โดยโอ่งน้ำที่บรรพบุรุษนำมาจากจีน ยังคงถูกใช้งานจากรุ่นสู่รุ่น บางครั้งใช้เก็บน้ำในหน้าแล้ง ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้จากครอบครัวของพินิจ เป็นดั่งภาพสะท้อนของการแลกเปลี่ยนฉันมิตร ระหว่างจีนกับไทย
บันทึกประวัติศาสตร์จีนระบุว่า จีนและไทยติดต่อสื่อสารกันมานาน ตั้งแต่ก่อนเกิดการก่อตั้งประเทศไทย โดยเมื่อครั้งเจิ้งเหอออกเดินเรือ ในยุคราชวงศ์หมิง เขาได้ล่องเรือตามแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นเหนือสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน และช่วยเหลือราชวงศ์ในอาณาจักรอยุธยา แก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านบางแห่ง
ช่วงก่อนพวกล่าอาณานิคมจากตะวันตกจะเข้ามา ยุคสมัยนั้น ไทยทำการค้ากับจีนเป็นส่วนใหญ่ โดยจีนนำเข้าข้าวสาร เครื่องเทศ แร่ดีบุก และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากไทย ส่วนไทยนำเข้าเครื่องเคลือบ ผ้าไหม ใบชา และเครื่องเหล็กจากจีน ซึ่งผู้ค้าจะใช้วัตถุหนักๆ อย่างรูปปั้นหิน เป็นอับเฉาถ่วงน้ำหนักเรือ ระหว่างขากลับ
ปัจจุบัน ป๊อปมาร์ท แบรนด์อาร์ตทอยสุดฮิตจากจีน ได้เปิดตัวดีมู่ รุ่นลิมิเต็ดที่ผสมผสานองค์ประกอบทางวัฒนธรรมจีนและไทย ณ กรุงเทพมหานคร ภายใต้การสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศของไทย และสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี
การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างจีนกับไทย เป็นพลังขับเคลื่อนการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และอนาคตของการสืบสานมิตรภาพ เป็นสะพานเชื่อมโยงคนรุ่นใหม่ของจีนและไทย ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมของกันและกัน
ตั้งแต่รูปปั้นหินที่เป็นอับเฉา ถ่วงน้ำหนักเรือสินค้าเดินทะเลในอดีตกาล จนถึงอาร์ตทอยจีนสุดฮิต ที่ห้อยแขวนบนกระเป๋าสะพายของวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน ชาวจีนและชาวไทย ต่างทำความรู้จักและสนิทสนมกัน ผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการสร้างประชาคมจีน-ไทย ที่มีอนาคตร่วมกัน มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น
พินิจทิ้งท้ายว่า รากฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คือความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน และหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย แสดงให้เห็นว่า “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และประชาชนจึงใกล้ชิดกัน โดยความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทย จะใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ด้วยความพยายามร่วมสร้างประชาคมจีน-ไทย ที่มีอนาคตร่วมกัน


ขอบคุณข้อมูลจากซินหัว