บิ๊กเต่า เผยกรณี ตำรวจ บก.ปปป. เข้าตรวจสอบเส้นเงินเจ้าอาวาสวัดม่วง เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมว่าเงิน 10 ล้านบาท และทองคำ 250 บาท ที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวเจ้าอาวาสจริงหรือไม่ ส่วนกรณีเจ้าคุณอาชว์ จะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้ …
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุลักทรัพย์ภายในกุฏิของพระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร จนทำให้มีเงิน 10 ล้านและทองคำ 250 บาทหาย โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ลงไปตรวจสอบที่ไปที่มาของเงินดังกล่าว แม้เจ้าอาวาสจะระบุว่าเป็นเงินส่วนตัว โดยพล.ต.ต.จรูญเกียรติฯ บอกว่า กก.1 บก.ปปป. จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบในวันนี้ ร่วมกับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อต้องการทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงินทั้งหมด โดยจะมีการไล่ตรวจสอบพยานหลักฐานภายในวัด พร้อมกับต้องการพูดคุยกับเจ้าอาวาสโดยตรง เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงของที่ไปที่มาในจำนวนเงินดังกล่าว ว่าเป็นการเก็บออมมาเองหรือไม่ตามคำกล่าวอ้างว่าเป็นเงินส่วนตัว ให้เกิดความชัดเจนและความเป็นธรรมแก่เจ้าอาวาส แต่หากการตรวจสอบพบข้อสงสัย หรือเส้นทางเงินที่ไม่ถูกกฎหมายก็ว่ากันไปตามคดี
เมื่อถามว่า มีข้อมูลว่าเจ้าอาวาสวัดม่วง ชอบไปถอนเงินสดเพื่อนำมาซื้อทองคำในลักษณะนี้มาก่อนหรือไม่ บิ๊กเต่า บอกว่า มีเรื่องที่ไวยาวัจกรมาให้ข้อมูลเรื่องเจ้าอาวาสว่า ราคาทองกำลังขึ้น น่าลงทุน หากเงินอยู่เฉยๆจะไม่มีประโยชน์ ก็ให้นำเงินมาลงทุน แต่สุดท้ายเงินกลับหายไปตอนเจ้าอาวาสไม่อยู่ เพราะฉะนั้นจึงมองว่ามีหลายส่วนที่ซับซ้อน ทาง สน.เพชรเกษมก็กำลังเร่งคลี่คลายในส่วนนี้อยู่ แต่ที่ ตำรวจ บก.ปปป.จะไปตรวจสอบให้หายสงสัยคืออยากทราบว่าเงินจำนวนนี้ได้มาอย่างไร หากเป็นเงินวัดแล้วเจ้าอาวาสมีการนำเงินนี้ออกมาเพื่อต่อยอด เล่นหุ้น หรือมาใช้เอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ เป็นการกระทำที่มิชอบ ก็จะมีเรื่องคดีอาญาลักทรัพย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนหากนำไปใช้ประโยชน์ด้านสาธารณะ ก็ต้องมีหลักฐานชี้แจงชัดเจนด้วย
ส่วนยอดเงินที่หมุนเวียนภายในวัดม่วง ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะขณะนี้ บก.ปปป. รับคดีเรื่องวัดเป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นสัญญาณดีที่มีการตื่นตัว และสามารถขยายผลเกี่ยวกับวัด ถือว่าเป็นการทำความสะอาดเพื่อให้สถาบันพระพุทธศาสนามีความโปร่งใสตรวจสอบได้ และจะได้แก้ไขหรือกำจัดวัฒนธรรมในองค์กรหรือประเพณีที่ไม่ดีออกไป ให้เหลือพระดีๆให้พวกเรากราบไหว้ เงินที่พุทธศาสนิกชนถวายให้วัดต่างๆ ก็จะถูกนำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้อง ไม่ไปเข้ากระเป๋าใครและนำไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง เหมือนกรณีวัดไร่ขิง
เมื่อถามว่า บก.ปปป. ที่เคยทำคดีลักษณะนี้เกี่ยวกับวัดมาจำนวนมาก หากเทียบกับวัดม่วงและจำนวนเงินที่พระครอบครองถือว่าปกติหรือไม่ บิ๊กเต่า บอกว่า ถ้ามองภาพวัดที่จนและรวย หากเทียบกับวัดที่รวย ถือว่าเงินจำนวนนี้ไม่เยอะ แต่สำหรับวัดม่วงตนมองว่า การทำบุญบริจาคก็ไม่ได้เยอะมากมาย สิ่งที่น่าสงสัยคือเงินจำนวนนี้มาจากไหน ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้วที่ทางเจ้าอาวาสระบุว่าเป็นเงินส่วนตัว เราจึงต้องตรวจสอบไปตามกระบวนการให้เกิดความชัดเจน
ส่วนความคืบหน้าที่ บก.ปปป. ตรวจสอบกรณี พระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ “เจ้าคุณอาชว์” พระราชาคณะชั้นเทพและอดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ บิ๊กเต่า เปิดเผยว่า เรามีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ท่านต้องการทำงานอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ ซึ่งก็ได้มีการติดตามการดำเนินการเรื่องนี้ด้วย โดย บก.ปปป. ก็เดินหน้าทำงานควบคู่กับการแก้ไข ไม่ให้ปัญหาเหล่านี้หมักหมม พร้อมทั้งได้นำหน่วยงาน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) เข้ามา เพื่อรายงานข้อเท็จจริงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือ นายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจที่จะนำไปแก้ไขบทกฎหมายต่างๆ เพื่อให้เกิดแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม ซึ่งยืนยันว่าเรื่องของวัดตรีทศเทพ จะมีความชัดเจนในเร็วๆนี้ โดยขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของ บก.ปปป. / ป.ป.ท และ สำนักงาน ป.ป.ช.







