กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สวญ.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล., พ.ต.ต.บดี ดวนพล สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. ร.ต.อ.ภิเชศ นาเมืองรักษ์ รอง สว.ส.ทล 2 กก.3 ร่วมกันจับกุม นายบดีนิภัทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี สัญชาติไทย พร้อมของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น VIOS สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 1 กอ 7923 กรุงเทพมหานคร และ แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี แสดงหมายเลขทะเบียน 1 กอ 7923 กรุงเทพมหานคร (วันสิ้นอายุ 27 พ.ย. 2569)
พฤติการณ์จับกุม สืบเนื่องจากเมื่อ วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 08.17 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรีพบรถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น VIOS สีขาว คันดังกล่าว โดยมี นายบดีนิภัทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี (ผู้ขับขี่) จากการตรวจสอบทะเบียนรถไม่พบข้อมูลในระบบ จึงตรวจสอบสำเนาคู่มือการจดทะเบียนรถ ปรากฏว่า เป็นของรถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น VIOS สีขาว ทะเบียน อ 7923 กรุงเทพมหานครมีผู้ถือกรรมสิทธิ์ คือ นางประทวนฯ
จึงตรวจสอบหมายเลขตัวถังจากสำเนาคู่มือรถ พบว่าหมายเลขทะเบียนที่ถูกต้องคือ 1กต 7452 กรุงเทพมหานคร วันสิ้นอายุของภาษีรถ วันที่ 9 มกราคม 2560 สถานะ ระงับใช้รถ มีผู้ครองครองคือ นางสาวสุมินตราฯ และผู้ถือกรรมสิทธิ์ บริษัทโตโยต้าลิสซิ่ง(ประเทศไทยจำกัด)
ทั้งนี้ ตรวจสอบแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีที่ติดมากับตัวรถ พบว่า คล้ายมีการดัดแปลงโดยการถ่ายเอกสารสีในแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี ซึ่งลักษณะขนาดตัวอักษร มีขนาดสีที่เข้มและตัวหนังสือที่ใหญ่กว่าปกติ จากการตรวจสอบข้อมูลและพฤติการณ์ของผู้ต้องหาได้ใช้แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอม กับสำเนาคู่มือรถและแผ่นป้ายไม่ตรง กับข้อมูลจดทะเบียนในระบบกรมการขนส่งทางบก ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าเป็นเอกสารราชการปลอม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม” จากนั้นจึงได้ทำบันทึกจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา ดำเนินคดี
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่า ตนได้ยืมรถดังกล่าวจาก น.ส.สุทิชาฯ มาใช้งานชั่วคราว เมื่อวันจันทร์ ที่ 7 กรกฎาคม 2568 เนื่องจากไม่มีรถมาไว้ใช้งาน โดยตนไม่ทราบว่าแผ่นป้ายทะเบียน ไม่ตรงกับตัวรถ และป้ายภาษีที่ติดมากับตัวรถนั้นเป็นของปลอม จากนั้นติดต่อประสานไปยัง น.ส.สุทิชาฯ ซึ่งเป็นบุคคลที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่า เป็นผู้จัดหารถมาให้ โดยนางสาวสุทิชาฯ ยอมรับว่าได้นำรถคันดังกล่าวมาให้ยืมใช้จริงโดยไม่รู้ว่าคันนี้ใช้แผ่นป้ายภาษีปลอมมาก่อนเช่นกัน
