วันอังคาร, กรกฎาคม 29, 2025
หน้าแรกการเมือง“หยุดยิงไร้กันชน?” สุรชาติชำแหละดีลชายแดนไทย-กัมพูชา

Related Posts

“หยุดยิงไร้กันชน?” สุรชาติชำแหละดีลชายแดนไทย-กัมพูชา

“…การหยุดยิงระหว่างไทย-กัมพูชาดูจะเป็นข่าวดีในระดับผิว แต่คำถามตามมาคือ รัฐบาลเร่ง “จับมือสร้างภาพ” หรือคิดลึกถึงกลไกรองรับความเปราะบางในสนามจริงหรือไม่?

ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข เตือนถึง 2 จุดอ่อนสำคัญ ทั้งความเร่งรัดให้ทหารพบหน้าหลังสิ้นเสียงปืนเพียงไม่กี่ชั่วโมง และการไร้ “Monitoring Team” ควบคุมข้อตกลง ขณะที่ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หรือ “ลุงป้อม” ย้ำชัด รัฐต้องแยกเรื่องมั่นคงออกจากเกมการค้า พร้อมเตือนว่า “อธิปไตย” ไม่ใช่สิ่งที่ใช้ต่อรองได้ และต้องพร้อมปกป้องด้วยชีวิต…”

 หยุดยิงแบบไร้กันชน: แค่ยิ้ม-จับมือพอหรือไม่?

คำเตือนจาก ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการด้านความมั่นคง กลายเป็นเสียงวิจารณ์สำคัญ หลังการเจรจาหยุดยิงยกแรกระหว่างไทย-กัมพูชา โดยตั้งข้อสังเกต 2 ประเด็นหลักที่อาจทำให้ข้อตกลงนี้ “เปราะบาง” ตั้งแต่ต้นทาง

หนึ่ง – ทำไมต้องเร่งให้แม่ทัพพบกันเพียง 6-7 ชั่วโมงหลังหยุดยิง?

อาจารย์สุรชาติ ชี้ว่า “คนที่เพิ่งผ่านสนามรบ ยังไม่ทันตั้งสติ จะไปปั้นหน้ายิ้มจับมือกันเช้ารุ่งขึ้น มันยากเกินไป” พร้อมเสนอให้รอ 3-5 วัน เพื่อให้ทหารทั้งสองฝ่ายคลายอารมณ์และเตรียมใจ

สอง – ทำไมไม่มีคณะกรรมการติดตามผล (Monitoring Team)?

ทั้งที่ความขัดแย้งในสนามรบมักมาพร้อมข้อกล่าวหา–บิดเบือน เช่น กรณีกัมพูชาอ้างว่าไทยใช้ “แก๊สพิษ” โดยปราศจากหลักฐาน หากไม่มีหน่วยงานกลางตรวจสอบ–ควบคุม สถานการณ์ย่อมเสี่ยงจะลุกลามใหม่ในทันที

“ดีลที่มาเลย์ เป็นเพียงเวทีของ ‘คำพูด’ แต่ในสนามจริงยังไม่มีใครเข้ามาช่วยแยกฝ่ายหรือรับผิดชอบเมื่อข้อตกลงถูกละเมิด” – สุรชาติ

การเมืองเจรจาเร็ว…แต่ทหารเจ็บจริง

ในบริบทของการสู้รบที่ยืดเยื้อและมีผู้เสียชีวิตทั้งทหารและประชาชน คำถามใหญ่คือ การเร่ง “ภาพลักษณ์สันติภาพ” ด้วยการให้ผู้นำทหารพบหน้ากันทันทีหลังหยุดยิงนั้น เป็น “กลยุทธ์ทางการเมือง” หรือ “ความประมาทเชิงยุทธศาสตร์”?

“ทหารบางคนที่ไปเซ็นหยุดยิง ไม่เคยผ่านสนามรบมาก่อน ไม่เห็นศพ ไม่รู้ความรู้สึก…แล้วจะตัดสินใจแทนคนที่เจ็บจริงได้อย่างไร?” – สุรชาติ

พล.อ.ประวิตรเตือนแรง: “ความมั่นคงไม่ใช่ของเล่นบนโต๊ะเจรจา”

แม้จะวางมือจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม แต่บทบาทของ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หรือ “ลุงป้อม” ในฐานะอดีตแม่ทัพใหญ่ และผู้คร่ำหวอดในพื้นที่ชายแดน กลับถูกจับตาอย่างมากในช่วงที่สถานการณ์ไทย-กัมพูชาเปราะบาง

โดยลุงป้อมย้ำว่า รัฐบาลต้องแยกแยะชัดระหว่าง “ความมั่นคง” กับ “การค้า” พร้อมเตือนว่า การเจรจาที่ไม่มีจุดยืนเด็ดขาด เสี่ยงทำให้ไทยเสียเปรียบในระยะยาว

“อย่าหลงกล อย่าตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ…กติกาสากลมีไว้ใช้กับสุภาพบุรุษเท่านั้น” – พล.อ.ประวิตร

คำถามต่อไป: การประชุม GBC 4 สิงหาคม จะไปไกลกว่าหยุดยิงได้แค่ไหน?

ท้ายที่สุด ข้อตกลงหยุดยิงอาจเป็นเพียง “จุดเริ่มต้น” ของกระบวนการสันติภาพที่ยังไร้หลักประกัน หากไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาเขตแดน หรือกลไกติดตามผลอย่างเป็นระบบ

การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ จะกลายเป็นบทพิสูจน์ว่า รัฐบาลไทยมี “กรอบคิด” และ “ยุทธศาสตร์” มากพอที่จะเปลี่ยนหยุดยิงชั่วคราว ให้กลายเป็นความสงบถาวร หรือไม่?

  • ข้อตกลงหยุดยิงที่ไม่มี Monitoring Team จะยืนยาวได้จริงหรือ?
  • รัฐบาลเร่งสร้างภาพ “สันติภาพ” เพื่อใคร และเพื่ออะไร?
  • “แม่ทัพพบหน้า” คือหมากแห่งมิตรภาพ หรือแรงกดดันทางการเมือง?
  • หาก “ความมั่นคง” ถูกใช้ต่อรองกับ “การค้า” แล้วอธิปไตยไทยจะเหลือแค่ไหน?
  • หากวันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังเป็นรัฐมนตรีกลาโหม สถานการณ์จะต่างออกไปหรือไม่?

ความมั่นคงไม่ใช่แค่เรื่อง “หยุดยิง” แต่คือการปกป้อง “ศักดิ์ศรีชาติ” บนทุกเวที ทั้งสนามรบ สนามการเมือง และเวทีการค้า

#สืบจากข่าว รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts