กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร, พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์, พ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์, พ.ต.ท.สุรโชค กังวานวาณิชย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ประภาส วังงาม สว.กก.3 บก.ปอศ.,ร.ต.อ.สุริยน วิกยานนท์ รอง สว.กก.3 บก.ปอศ., ว่าที่ ร.ต.ท.ปัณณ์วิชญ์ สร้อยปลิว, ว่าที่ ร.ต.ท.ไพโรจน์ รังสิวรารักษ์ รอง สว.กก.3 (ป) บก.ปอศ., ด.ต.ไกรราช เทียมยศ, ด.ต.สุริยา ชินวงค์, จ.ส.ต.นคเรศ อุตสา ผบ.หมู่ กก.3 บก.ปอศ. ได้จับกุม นายศรุตฯ อายุ 37 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าอาคาร ถ.ข้าวหลาม แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ ในเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมากลุ่มผู้ต้องหาจัดงานเปิดตัวสถาบันแห่งหนึ่งอย่างเป็นทางการ งานนี้ถูกออกแบบมาอย่างหรูหรา มีการเชิญบุคคลมีชื่อเสียงในสังคมมาเป็นวิทยากร เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้สถาบันดูน่าเชื่อถือ ผู้จัดงานประกาศต่อสาธารณชนว่าองค์กรนี้มีเป้าหมายสูงส่ง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการศึกษา ด้วยการนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในการเรียนการสอน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ทัดเทียมสากล
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการเล่าถึง “ภารกิจช่วยเหลือสังคม” โดยอ้างว่าจะช่วยผู้ประสบอุทกภัยในหลายจังหวัด นำเงินบริจาคไปบูรณะบ้านเรือนและจัดหาสิ่งของจำเป็นให้ผู้เดือดร้อน การรับบริจาคดำเนินผ่านบัญชีธนาคารในนาม “มูลนิธิแห่งหนึ่ง” โดยมีนายศรุต ผู้ต้องหารายสำคัญ ดำรงตำแหน่งเลขานุการสถาบัน
ทว่า เบื้องหลังภาพสวยงามกลับไม่เป็นอย่างที่สังคมเชื่อ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง พบว่าเงินบริจาคจากประชาชนรวมกว่า 1 ล้านบาท ไม่ได้ถูกนำไปใช้เพื่อการศึกษา หรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามที่ประกาศไว้ เงินส่วนใหญ่ถูกถอนออกในลักษณะปกปิดข้อเท็จจริง และมีการโอนย้ายไปยังบุคคลอื่นโดยปราศจากเอกสารหรือหลักฐานยืนยันการใช้จ่ายเพื่อสาธารณประโยชน์
หลักฐานยืนยันชัดเจนว่า สถาบันแห่งนี้ไม่เคยมีการดำเนินกิจกรรมด้านการศึกษา หรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยจริง หากแต่ถูกใช้เป็น “ฉากบังหน้า” เพื่อระดมทุนหลอกลวงผู้บริจาค โดยอาศัยชื่อเสียงของบุคคลที่มาร่วมงานเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเบี่ยงเบนความสงสัย เมื่อพยานหลักฐานเพียงพอ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมข้อมูลขอหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และสามารถจับกุมนายศรุตฯ ได้สำเร็จ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน
กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงขอเตือนประชาชนว่า ปัจจุบันอาชญากรรมรูปแบบการฉ้อโกงมีหลายวิธีและแนบเนียนมากขึ้น โดยเฉพาะการแฝงตัวในคราบองค์กรเพื่อสังคม เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อ
ควรตรวจสอบสถานะองค์กรหรือมูลนิธิว่ามีการจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ อย่าหลงเชื่อเพียงเพราะเห็นภาพลักษณ์หรูหรา หรือมีคนดังมาร่วมงาน หากไม่มีผลงานที่พิสูจน์ได้ และควรตรวจสอบชื่อบัญชีรับบริจาคว่าเป็นขององค์กรจริง ไม่ใช่บัญชีส่วนบุคคล “ทุกการบริจาคควรเริ่มจากการตรวจสอบ” คือสิ่งที่คดีนี้ตอกย้ำอย่างชัดเจน เพื่อให้เงินทุกบาท ที่ตั้งใจช่วยเหลือผู้อื่น ไปถึงมือผู้เดือดร้อนอย่างแท้จริง และเพื่อป้องกันมิให้ถูกหลอกลวงและเกิดความเสียหายจากมิจฉาชีพ หากไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมาย สามารถแจ้งมาได้โดยตรงที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง Website : https://cib.go.th/ หรือ Facebook ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.ประภาส วังงาม สว.กก.3 บก.ปอศ. โทร.082-609-9795
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”


