“…วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก,พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ.,
พ.ต.อ. ธรากร เลิศพรเจริญ,พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์,พ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ.,
กรมสนับสนุนบริกรสุขภาพ โดย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิว
สนุนบริการสุขภาพ และนายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมการปฏิบัติงาน กรณีจับกุมผู้ต้องหาสวมรอยเป็นหมอรับจ้างทำงานในคลินิก…”
โดยจับกุมตัว น.ส.ณัฐชานันท์ พิทักษ์ชัยกร อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 247/2565 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 โดยกล่าวหาว่า “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ใช้คำแสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่างๆ ,ฉ้อโกง โดยการ
แสดงตนเป็นบุคคลอื่น”
สืบเนื่องจากเมื่อก่อนหน้านี้ น.ส.ณัฐชานันท์ฯ มีพฤติกรรมหลอกลวง โดยเปิดคลินิก ย่านบางนา และประกาศรับสมัครแพทย์เพื่อมาทำงานที่คลินิก โดยแพทย์หญิงเอ (นามสมมุติ) ได้ยื่นเอกสารสำคัญทางออนไลน์เพื่อ
ครงาน ภายหลังผู้ต้องหานำเอกสารใบประกอบชิชาชีพแพทย์ของแพทย์หญิงเอฯ นำมาสวมรอยเข้าไปทำงานในคลินิกจำนวนหลายแห่ง โดยแพทย์หญิงเอ (นามสมมุติ) ภายหลังได้ทราบเรื่องจากคลินิกต่างๆ ที่น.ส.ณัฐชานันท์ฯ ไปทำงานทำให้ได้รับความเสียหาย ผู้เสียหายจึงได้มาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี กับ น.ส.ณัฐชานันท์ฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยจากการตรวจสอบประวัติคดี ของ น.ส.ณัฐชานันท์ พิทักษ์ชัยกร โดย ปี 2556 ถึง ปัจจุบัน ถูก
ดำเนินดคี 13 คดี ต่างท้องที่กัน โดยเป็นคดีโดยส่วนใหญ่เป็นคดี ในการหลอกลวงเอกเอกสารของผู้อื่นไปสวมรอยทำธุรกรรม หรือนำเอกสารของแพทย์ที่หลอกลวงมาได้ไปสวมรอยเป็นแพทย์เข้าทำงานในคลินิกต่างๆ โดยนางสาวณัฐชานันท์ฯ ต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาศาล ตั้งแต่ ธันวาคม 2559 ถึง เดือน สิงหาคม 2564 โดยเมื่อผู้ต้องหา
ได้รับการปล่อยตัว นางสาวณัฐชานันท์ฯ ได้ก่อเหตุในลักษณะเดิมอีกจึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี โดยนางสาวณัฐชานันท์ๆ ได้ยื่นประกันตัวต่อศาล โดยในระหว่างปล่อยตัวชั่วคราวนั้น นางสาวณัฐชานันท์ฯ ไม่สำนึกในการกระทำลงไป ยังหวนกลับมากระทำความผิดซ้ำซากเช่มเดิมอีก โดยต่อมาประมาณ เดือน มกราคม 2565 นส.ชานันท์ฯ ได้ไปสวมรอยเป็นแพทย์ท่านหนึ่ไปทำงานที่คลินิกแห่งหนึ่งผ่านบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
ภายหลังทราบว่าเป็นหมอปลอม จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน โดยพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้ต้องหา ตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ได้ออกสืบสวนติดตามจับกุม โดยสืบทราบว่าได้หลบหนีไปพักอาศัยย่านจรัญสนิทวงศ์ จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบบริเวณพื้นที่ดังกล่าว พบ น.ส.ณัฐชานันท์ พิทักษ์ชัยกร อยู่ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย
กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ได้กระทำความผิดจริง โดยได้กระทำความผิดในลักษณะเดิม โดยเปิดและประกาศหาแพทย์ทำงารในคลินิกเสริความามทางออนไลน์ เพื่อหลอกลวงเอาเอกสารสมัครงาน จากนั้นจะนำเอกเอกสาปสวมรอเป็นแพทย์ โดยปลอมเอกสารใช้วิธีการตัดต่อตกแต่งภาพ มาอ้างและจะใช้บัญชีญาติมาเพื่อรับโอนเงิน โดยอ้างว่าไม่สะดวกใช้บัญชีของตนเองในการรับโอนเงิน โดยเมื่อทำงานไปสักพักจะย้ายคลินิกทำงานไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับพิรุธได้ โดย น.ส.ณัฐชานันท์ฯ อ้างว่าต้องใช้เงินเพื่อจะไปทำประกอบธุรกิจคลินิกเสริมความงาม จึงต้องมากระทำความผิดในลักษณะนี้อีก
พลตำรวจตรีอนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชน ควรศึกษาข้อมูลคลินิก แพทย์และชั้นตอนการรักษาให้ดีก่อนที่จะเข้ารับบริการ
เสริมความงาม และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ, หมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1 135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค