เมื่อวันที่ 19 ส.ค.68 เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินให้นำส่งหัวใจดวงที่ 137 จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรีไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แม้จะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีปริมาณรถขาเข้าเมืองหนาแน่น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าอำนวยความสะดวกและเปิดทางให้รถพยาบาลเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถส่งมอบหัวใจถึงมือแพทย์สำเร็จภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 1 นาที
ภารกิจหัวใจดวงที่ 137: แข่งกับเวลาข้ามจังหวัด
ต่อมาในวันที่ 21 ส.ค.68 เวลา 11.15 น. ศูนย์วิทยุโครงการพระราชดำริได้รับการประสานงานให้ขนส่งหัวใจดวงที่ 138 จากจังหวัดจันทบุรีไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต ซึ่งมีระยะทางกว่า 287 กิโลเมตร และต้องนำส่งให้ถึงที่หมายภายในเวลา 14.45 น.
รถพยาบาลออกเดินทางพร้อมการคุ้มกันจากตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ตำรวจทางหลวง และตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ตลอดเส้นทาง ขบวนรถสามารถทำความเร็วเพื่อแข่งขันกับเวลาได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งถึงโรงพยาบาลเป้าหมายในเวลา 13.37 น. ใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง 22 นาที ซึ่งเร็วกว่าการเดินทางปกติถึง 1 ชั่วโมง 25 นาที
วันที่ 22 ส.ค. 2568 พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงภารกิจสำคัญของตำรวจจราจรในการนำส่งอวัยวะหัวใจ เพื่อต่อชีวิตผู้ป่วยที่รอคอยการปลูกถ่าย โดยในเดือนสิงหาคมนี้ ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ร่วมกับตำรวจทางหลวงและตำรวจในพื้นที่ต่าง ๆ ได้ปฏิบัติภารกิจสำเร็จลุล่วงอีก 2 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้ป่วยได้รับโอกาสจากหัวใจดวงที่ 137 และ 138
ภารกิจหัวใจดวงที่ 138: ฝ่าการจราจรหนาแน่นในกรุงเทพฯ
พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา (ผบช.ศ.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร กล่าวว่า “หัวใจทั้งสองดวงนี้คือชีวิตใหม่สำหรับผู้ป่วยและครอบครัว เป็นเครื่องยืนยันว่าตำรวจไทยไม่ได้แค่ทำตามหน้าที่ แต่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของปาฏิหาริย์ และร่วมส่งต่อเจตนารมณ์ของผู้เสียสละอย่างสุดกำลัง”
สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนทุกคนที่ช่วยกันเปิดทาง ทำให้ภารกิจสำคัญนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี เป็นการสร้างความหวังและสานต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วยและครอบครัวอย่างแท้จริง
