กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้เข้าจับกุมผู้ร่วมขบวนการปล่อยเงินกู้เถื่อนผ่านแอปพลิเคชันชื่อ “เงินมีความสุข” ซึ่งเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนดถึง 3,197% ต่อปี โดยพบว่ามีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 120 ล้านบาทต่อเดือน
การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังมีผู้เสียหายหลายรายร้องเรียนมายังศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ (ศปน.ตร.) ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการกู้ยืมเงินผ่านแอปฯ ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ บก.ปอศ. จึงได้สืบสวนและพบว่าแอปฯ “เงินมีความสุข” มีพฤติกรรมให้ผู้กู้ยินยอมให้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์มือถือ และมีการเรียกเก็บค่าดำเนินการและค่าเอกสารเพิ่มเติม โดยคิดดอกเบี้ยในลักษณะดอกลอยสูงถึง 8.76% ต่อวัน หรือ 262.8% ต่อเดือน ซึ่งคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยรายปีสูงถึง 3,197.40%
หากผู้กู้ชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนด ก็จะมีการทวงหนี้ด้วยการคุกคามไปยังผู้เสียหายและบุคคลใกล้ชิด
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการ และจากการสืบสวนติดตามตัว พบว่า นางวิลาวัลย์ฯ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ได้หลบหนีไปซ่อนตัวที่จังหวัดสระบุรี
เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเข้าจับกุมตัวได้ที่ถนนในพื้นที่ หมู่ที่ 12 ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าถูกชักชวนให้ไปทำงานเป็นแอดมินดูแลบัญชีให้กับแก๊งเงินกู้เถื่อนที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยมีคนขับรถไปส่งยังช่องทางธรรมชาติ และมีนายทุนชาวจีนเป็นผู้สั่งการ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า แอปพลิเคชัน “เงินมีความสุข” ได้ถูกนำออกจากแพลตฟอร์มสำหรับดาวน์โหลดแล้ว
ตำรวจสอบสวนกลางขอฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อแหล่งเงินกู้นอกระบบที่ไม่น่าเชื่อถือและไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันเถื่อนที่มีดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด เพราะนอกจากจะเสี่ยงถูกทวงหนี้ด้วยความรุนแรงแล้ว ข้อมูลส่วนตัวอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายอีกด้วย
หากต้องการตรวจสอบแหล่งเงินกู้ที่ถูกกฎหมาย สามารถตรวจสอบใบอนุญาตได้ที่:
-ธนาคารแห่งประเทศไทย (เว็บไซต์ https://app.bot.or.th/BotLicenseCheck)
-สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (เว็บไซต์ http://www.1359.go.th/picodoc/comp.php)
