พปชร. ย้ำชัด MOU44 ทำไทยเสียเปรียบ ไม่สอดคล้องกฎหมายทะเลสากล อาจทำให้ประเทศสูญเสียทรัพยากร และสิทธิของประชาชน
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟสบุ๊คภาพรวมของ MOU44 แม้จะมีผลดีหลายข้อ แต่ก็มีข้อน่ากังวล 6 ข้อ คือ
- การตีความและบังคับใช้ที่ต่างกัน
- กระทบอธิปไตยและเอกราชของไทย
- เสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร
- ความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจโลก
- กระบวนการตัดสินใจซับซ้อนและล่าช้า
- ขาดความโปร่งใสและธรรมาภิบาล
โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า แผนที่ MOU44 ไม่สอดคล้องกฎหมายทะเลสากล UNCLOS 1982 ทำให้ไทยอาจเสียทรัพยากรและกระทบสิทธิประชาชน รวมถึงเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 50 (2) ทางออกเดียวคือ ยกเลิก MOU44 ก่อน แล้วเจรจาฉบับใหม่ บนกติกาที่ถูกต้อง เพื่อรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พรรคสนับสนุนการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 อย่างชัดเจน เพราะ MOU ทั้งสองฉบับ มีข้อบกพร่องร้ายแรง ทั้งการใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 (หนึ่งต่อสองแสน) ทำให้ไทยเสียเปรียบทางการเจรจา รวมถึงการเปิดช่องให้ไทยต้องแบ่งผลประโยชน์ใต้เกาะกูดให้แก่กัมพูชา ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นของไทยโดยชอบธรรม
“พรรคพลังประชารัฐ” ขอย้ำว่า ประเทศไทยสามารถประกาศยกเลิก MOU ได้ทันที โดยไม่ต้องรอความเห็นชอบจากกัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาล หยุดอ้างข้อจำกัดที่ไม่มีอยู่จริง และสำคัญที่สุดคือ การบริหารบ้านเมืองต้องตั้งอยู่บนรากฐานของ “ชาติและประชาชน” ไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตนหรือครอบครัว เพราะหากประเทศชาติสูญเสีย ประชาชนจะเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนโดยตรง
