เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 ก.ย.68 นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ พร้อมด้วยอดีตทีมงานของ “เจน ญาณทิพย์” 2 ราย ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อยื่นเรื่องให้ตรวจสอบกรณีการรับบริจาคทองคำ และการจำหน่าย “ยันต์กรามหมู” ซึ่งเข้าข่ายการหลอกลวงประชาชน
การร้องเรียนครั้งนี้สืบเนื่องมาจากโครงการรับบริจาคทองคำของเจน ญาณทิพย์ เพื่อนำไปหลอมบรรจุในเกศพระ และนำแร่รัตนชาติไปไว้ในเจดีย์ที่สำนักปฏิบัติธรรม จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ 4 ปีก่อน โดยอดีตทีมงานระบุว่า แม้จะมีผู้ศรัทธาร่วมบริจาคเป็นจำนวนมาก แต่จนถึงขณะนี้ทองคำและวัตถุมงคลต่าง ๆ ยังไม่ถูกนำไปบรรจุตามที่ประกาศไว้ และทองคำน้ำหนัก 1 กิโลกรัมก็ยังไม่ทราบอยู่ที่ใด
ไทม์ไลน์ที่ไม่สอดคล้องกัน
นายแมน อดีตทีมงานคนหนึ่งซึ่งเคยช่วยคัดแยกทองคำบริจาค เล่าว่า ตนร่วมบริจาคทองคำส่วนตัวไปด้วย และต้องการให้เจน ญาณทิพย์ออกมาชี้แจงว่าทองคำยังคงอยู่ครบถ้วนหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เจน ญาณทิพย์เคยประกาศว่าจะทำการหลอมทองทั้งหมดในช่วงต้นปี 2565 แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า และอ้างเหตุผลว่าเจดีย์มีรอยรั่วและเคยมีโจรเข้ามาปล้นทรัพย์ที่สำนักปฏิบัติธรรม
นายแมนยังตั้งข้อสังเกตถึงไทม์ไลน์ที่ไม่ชอบมาพากล โดยระบุว่าวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เกิดเหตุโจรขโมยเครื่องตัดหญ้า แต่ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันยังคงมีการเปิดรับบริจาคทองคำ จนกระทั่งต้นปี 2568 ผู้บริจาคหลายคนเริ่มทวงถามความคืบหน้า เนื่องจากไม่เห็นการไลฟ์สดอัปเดตเรื่องทองคำเหมือนที่เคยทำเป็นประจำ
ความไม่ชอบมาพากลของการทำยันต์กรามหมู
นายเอก อดีตทีมงานอีกคนหนึ่ง ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิต “ยันต์กรามหมู” ที่จำหน่ายในราคา 3,000 บาท โดยระบุว่า กรามหมูที่นำมาใช้ถูกซื้อมาจากโรงฆ่าสัตว์ย่านนครปฐม และเจน ญาณทิพย์ได้โทรศัพท์เรียกตนให้มาช่วยเขียนยันต์ โดยแบบยันต์ที่ใช้ถูกค้นหามาจาก Google ไม่มีการสวดคาถาหรือทำพิธีใด ๆ ทั้งสิ้น และยืนยันว่าตนไม่มีส่วนได้ส่วนเสียหรือได้รับเงินเดือนจากการทำในครั้งนี้
ด้านนายรณณรงค์กล่าวว่า การที่ไม่ได้เขียนยันต์ด้วยตัวเอง แต่ไปหาแบบมาจากอินเทอร์เน็ต ถือเป็นประเด็นสำคัญทางกฎหมาย และเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน หากตรวจสอบพบว่าเป็นการหลอกลวงจริง อย่างไรก็ตามในชั้นนี้ยังถือว่าเจน ญาณทิพย์ยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์ และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้รับเรื่องร้องเรียนและทำการสอบปากคำผู้ให้ข้อมูลในวันนี้ ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
