วันนี้(8 กันยายน 2568) เวลา 13:30 น. นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยนายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง และนายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเมืองพัทยา และพื้นที่หนองมน ตามลำดับ หลังเกิดฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา ปริมาณฝนกว่า 50 มิลลิเมตร ส่งผลให้น้ำท่วมขังหลายจุด
โดยจุดแรกได้ไปติดตามการระบายน้ำ ณ สถานีสูบระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมสถานีที่ 4 บ้านเขาตาโล เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง ซึ่งเมืองพัทยาได้ปรับปรุงระบบท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ ทำให้จุดน้ำท่วมลดลงจากกว่า 20 จุด เหลือเพียง 9 จุด แต่บางพื้นที่ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมสูง โดยในระยะยาวมีแผนวางท่อระบายน้ำใหม่เพื่อเปลี่ยนเส้นทางน้ำไปยังอ่างเก็บน้ำชากนอก ลดการท่วมซ้ำบนถนนสุขุมวิท พร้อมเตรียมระบบแจ้งเตือนเพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางเสี่ยง
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้ติดตามการทำงานของสถานีสูบน้ำหาดวอนนภา ด้วยกำลังไฟฟ้าแรงสูง เทศบาลเมืองแสนสุข ซึ่งสามารถใช้การเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง มีอัตราสูบอยู่ที่ 3 ลบม./วินาที เสริมด้วยโมบายปั้มที่สูบโดยใช้เครื่องยนต์ดีเซล ขนาดท่อส่งน้ำ 12 นิ้ว มาเสริมอีก 1 จุด โดยเริ่มสูบน้ำตั้งแต่ เวลา 22.00 น. ของคืนที่ผ่านมาต่อเนื่องมาตลอด ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้สั่งการให้หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรีนำเครื่องสูบน้ำขนาดท่อส่ง 14 นิ้วมาติดตั้งอีก 1 เครื่องช่วงค่ำวันนี้ เพื่อเร่งการระบายน้ำให้เร็วขึ้น ซึ่งเทศบาลเมืองแสนสุขจะสูบน้ำต่อเนื่องจนกว่าจะสามารถระบายน้ำที่ท่วมขังย่านสุขุมวิท เลี่ยงหนองมน ถนนเปรมใจราษฎร์และชุมชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้หมด และสถานการณ์คลี่คลาย โดยเฉพาะพื้นที่ตลาดหนองมนที่ครั้งนี้มีน้ำท่วมสูงกว่าทุกปี เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องและน้ำป่าจากเขาสะสมไหลลงมารวมกัน
ขณะเดียวกันสถานีสูบน้ำแหลมแท่น ซึ่งเป็นสถานีสูบน้ำหลักของเมืองแสนสุขทางด้านทิศเหนือที่รับผิดชอบการระบายน้ำย่านถนนบางแสนสาย1 สาย2 พื้นที่โซนทิศเหนือของถนนลงหาดบางแสนและถนนข้าวหลามก็ยังคงเร่งสูบระบายน้ำที่ท่วมขังออกสู่ทะเลอย่างต่อเนื่องตลอดจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายลงเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ เทศบาลเมืองแสนสุขยังเปิดจุดแจกกระสอบทรายฟรีให้ประชาชนสามารถติดต่อขอรับเพื่อป้องกันน้ำเข้าบ้านเรือนในช่วงสถานการณ์ฝนตกหนัก
ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมติดตามผลการแก้ปัญหา และประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน ยืนยันว่าจังหวัดและทุกหน่วยงานจะเร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านและนักท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุด








