วันอังคาร, กันยายน 9, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจทางหลวงชลบุรีรวบสาวรับจ้างเปิดบัญชีม้า พบหมายจับ 5 หมายจับ คดีติดตัวอีก 18 คดีมีผู้เสียหายสูญเงินหลายล้านบาท

Related Posts

ตำรวจทางหลวงชลบุรีรวบสาวรับจ้างเปิดบัญชีม้า พบหมายจับ 5 หมายจับ คดีติดตัวอีก 18 คดีมีผู้เสียหายสูญเงินหลายล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ทล. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผบก.ป.ปรก.บก.ทล., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.3 บก.ทล., พ.ต.ท.ตุลยวัต เมืองทอง, พ.ต.ท.สมบูรณ์ เอื้อสมานไมตรี รอง ผกก.3 บก.ทล, พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สวญ.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล., ว่าที่ พ.ต.ต.บดี ดวนพล สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร.ต.อ.ภิเชศ นาเมืองรักษ์ รอง สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล., ร.ต.ท.ศิริพงษ์ ฉ่ำศิริ, ร.ต.ต.อนิวรรต ปิ่นเพชร รอง สว.(ป) ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล., ด.ต.ธีระ สมหวัง, ด.ต.จุฬาวุธ กองดวง, จ.ส.ต.เกียรติสถาพร กฐินเทศ, ส.ต.ท.ภานุวัตร สิงห์สมบัติ ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม นางสาวภิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี สัญชาติไทย ความผิดฐานดังนี้

1.ตามหมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่ 271/2568 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 กระทำความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อ กิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้โดยการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี หรือความผิดอาญาอื่นใด” ตามหมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่ 271/2568 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2568
2.หมายจับศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ 137/2568 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกัน ฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริต, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือ บางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
3.หมายจับศาลแขวงพัทยา ที่ 117/2568 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
4.หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 583/2568 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2568 กระความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง ประชาชนโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
5.หมายจับศาลแขวงพัทยา ที่ 292/2568 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2568 กระทำความผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์”

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรีได้สืบสวนติดตามจับกุม น.ส.ภิตาฯ อายุ 42 ปี

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 68 เวลา 14.00 น. บริเวณหน้าบ้านพัก เลขที่ 21/1045 ม.2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่ 271/2568 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้โดยการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดอาญาอื่นใด”

เมื่อช่วงประมาณปลายเดือน พ.ค.68 น.ส.ภิตาฯ ได้รับการชักชวนจากเพื่อนรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้กับกลุ่มสแกมเมอร์ชาวจีนที่มาซ่อนตัวในพื้นที่พัทยา ซึ่งหลังจากเปิดบัญชีเพียงวันเดียวได้มียอดเงินโอนเข้า มากว่า 2 ล้านบาท โดยอ้างว่าไม่ทราบแหล่งที่มาของยอดเงินดังกล่าว นอกจากนี้น.ส.ภิตาฯ ยังรับจ้างเปิดบัญชี อีกหลายบัญชีให้กับกลุ่มสแกมเมอร์ชาวจีนอีกหลายกลุ่มอยู่เรื่อยมา เพื่อใช้หลอกหลวงเหยื่อให้โอนเงิน จนมีผู้เสียหายจำนวนหลายรายเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์นำมาซึ่งการถูกออกหมายจับ และหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่สัตหีบ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนข้อมูลเพิ่มเติมทราบว่า ยังมีผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้โอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว และพบคดีอีก 18 คดีอยู่ระหว่างพิจารณาการออกหมายจับ ซึ่งน.ส.ภิตาฯ ถือว่าเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่อาจเชื่อมโยงถึงกลุ่มสแกมเมอร์อีกหลายกลุ่ม จากนั้นนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย สภ.เมืองระยอง

โดยข้อกล่าวหาข้างต้นมีโทษตามกฎหมายดังนี้
1.เป็นผู้สนับสนุนฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง โทษจำคุกไม่เกิน 1-10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
2.พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชนอันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
3.พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566 มาตรา 9 ผู้ใดเปิด หรือ ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้ มีเจตนา ใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์ สำหรับบริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด เกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท

ประชาสัมพันธ์หากผู้ใดได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าว ให้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สภ.ในพื้นที่ หรือแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมทางเพจเฟสบุ๊ก “CIB ตำรวจสอบสวนกลาง”

ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สวญ.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. โทร 085-3692956

“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”“มืออาชีพ เป็นกลาง เคียงข้างประชาชน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts