เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 802 ศาลนัดพิพากษา คดีอาญาหมายเลขคำที่ อ.594/2567 คดีระหว่างพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 โจทก์ นายชัชชาย หรือขาว ปาตมิตร จำเลยฐานความผิดเป็นผู้ใช้ จ้างวาน ผู้อื่น กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากกรณี ดร.มานพ เสถียรเขตต์ อดีตผู้สมัคร สส.จังหวัดระยอง พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ ถูกคนร้ายยิงถึงแก่ความตายภายในปั๊มน้ำมัน ช.อำนวยทรัพย์ปิโตรเลียม บ้านค่าย จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565
ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ นายมานพ ผู้เสียชีวิตเป็นทนายความและนักการเมืองท้องถิ่นและเคยลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคการเมืองหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุนายมานพลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดระยองในนามกลุ่มน้ำเค็ม โดยกลุ่มการเมืองท้องถิ่นแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มน้ำจืดและกลุ่มน้ำเค็ม ภายหลังการเลือกตั้งกลุ่มน้ำเค็มเป็นผู้ได้รับเลือก และมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้ง ต่อมานายมานพได้เป็นทนายความให้กับกลุ่มน้ำเค็ม คณะกรรมการการเลือกตั้งได้สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ และกลุ่มน้ำจืดเป็นผู้ชนะ ต่อมานายมานพได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานรัฐให้ตรวจสอบเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้งซึ่งมีความสนิทกับกลุ่มที่ได้รับการเลือกตั้ง อีกทั้งยังได้เป็นที่ปรึกษาให้กับนักการเมืองท้องถิ่นและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างในท้องถิ่นจังหวัดระยองหลายโครงการ จนสร้างความไม่พอใจให้กับนักการเมืองท้องถิ่นที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามนายมานพ ซึ่งในวันเกิดเหตุ นายชัชชาย จำเลยเป็นคนสนิทของนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามนายมานพ และพักอาศัยอยู่ภายในบ้านของนักการเมืองคนดังกล่าว และทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้ นายชัชชาย จำเลยในคดีนี้ยังสนิทกับ นายนิติพนธ์ และ นายปิติ จำเลยที่ 1 และ ที่ 2 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2915/2565 และเป็นผู้จ้างวานให้ทั้งคู่ไปสังหารนายมานพ ในระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2565 และมีนายเสถียร จำเลยที่ 3 เป็นผู้จัดหาอาวุธปืนให้นายปิติ และ นายนิติพนธ์ โดยจำเลยได้ร่วมกันจ้าง วาน ให้นายนิติพนธ์ และ นายปิติ กระทำความผิดดังกล่าวข้างต้น และแบ่งหน้าที่กันทำ โดยเตรียมอาวุธปืนและใช้อาวุธปืนยิงนายมานพจำนวน 3 นัด เหตุเกิดบริเวณปั๊มน้ำมัน อำนวยทรัพย์ปิโตรเลียม
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมยังมีข้อสงสัย จากการนำสืบของจำเลยที่ได้จองห้องพักให้แก่นายนิติพนธ์หรือแดงในช่วงวันเกิดเหตุ วันที่ 14-15 ส.ค. 65 นายนิติพนธ์ได้ให้นายปิติผู้เป็นคนลงมือก่อเหตุเข้าพักแทน จากการตรวจสอบพบว่า จำเลยเป็นคนจองห้องพักให้แก่นายนิติพนธ์เป็นประจำ อีกทั้งเส้นทางการเงินและการติดต่อทางโทรศัพท์มีเหตุสงสัยว่า จำเลยจะเป็นผู้ใช้หรือจ้างวานให้ก่อเหตุหรือไม่ พยานหลักฐานของโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจำเลยติดต่อกับนายนิติพนธ์เรื่องใด อีกทั้งนายปิติและนายนิติพนธ์ไม่ได้ให้การซัดทอดจำเลย จึงไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยจ้างวานฆ่าผู้ตาย พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมยังมีข้อสงสัยหลายประการว่าจำเลยกระทำความผิด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 วรรค 2 พิพากษายกฟ้อง
ภายหลังจากศาลพิพากษา พ.ต.ท.เอกบดี ศรีสุระ ทนายความโจทก์ร่วม กล่าวว่า ศาลมีเหตุสงสัยหลายประเด็นจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยพิพากษายกฟ้อง โดยตนยืนยันว่าจะขอยื่นอุทธรณ์คดีนี้ต่อไป หากฝ่ายจำเลยยื่นประกันตัวก็เป็นสิทธิ์และไม่คัดค้านการประกันตัวแต่อย่างใด โดยในการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้นั้นยังมีผู้ต้องหาบางคนอยู่ในระหว่างการสอบสวนของตำรวจกองปราบปราม แต่ตนไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ ส่วนคดีของจำเลยอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งผู้จ้างวาน ผู้ก่อเหตุและคนจัดหาปืนศาลได้มีคำพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตหมดแล้ว
ด้านนางศันสนีย์ เจริญศึกษา อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย พี่สาวผู้เสียชีวิต ที่เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมกับนางอุทัย เสถียรเขตต์ อายุ 78 ปี มารดา กล่าวว่า ศพของน้องชายตอนนี้ยังคงเก็บไว้อยู่เพื่อรอคอยให้คนที่กระทำความผิดได้รับผลของกฎหมาย โดยยังทำบุญให้น้องมาตลอดอย่างต่อเนื่อง แต่พอมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ก็รู้สึกเสียใจที่ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยปมสาเหตุสังหารน้องชายมาจากเรื่องการเมืองในท้องถิ่น และนายมานพน้องชายตนก็เป็นคนที่ไม่ชอบความอยุติธรรม และพร้อมจะเข้าไปแก้ไขช่วยเหลือปัญหาให้กับคนในท้องถิ่นทำให้เกิดไปขัดกับผลประโยชน์ของผู้อื่น จากนี้จะให้ทนายความยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อไป




