วันพฤหัสบดี, กันยายน 11, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมCIB สนธิกำลังหลายหน่วยงาน ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 4 จังหวัด

Related Posts

CIB สนธิกำลังหลายหน่วยงาน ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 4 จังหวัด

ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์แนวใหม่ ใช้เว็บไซต์เทรดหุ้นปลอมหลอกลงทุน ระยะแรกให้ถอนเงินได้จริง ใช้บัญชีม้านิติบุคคลรับโอน–ถอนเงินสดใน 2 นาทีที่ห้างดัง ก่อนฟอกเป็นคริปโตส่งต่อนายทุนจีน พบเชื่อมโยง 265 คดี ความเสียหายกว่า 654 ล้านบาท ดำเนินคดีเข้มแจ้งข้อหาหนักทั้งฉ้อโกง–ฟอกเงิน–อั้งยี่

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาลัย ผบก.ปอท. , พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ปอท. , พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท. , ว่าที่ พ.ต.ต.ลัทธพล อัครปัญญา สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปอท. และ ร.ต.อ.จิรายุ วงศ์วิวัฒน์ รอง สว.กก.2 บก.ปอท. ร่วมกับ บก.ปคบ., บก.ปคม., บก.ป., และ บก.ทล. เปิดปฏิบัติการ “9.9 Fake Company” ตรวจค้นเป้าหมาย 13 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และเชียงใหม่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 15 ราย แบ่งเป็นคนไทย 14 ราย และชาวจีน 1 ราย พร้อมอายัดผู้ต้องหาในเรือนจำเพิ่มอีก 1 ราย

ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกดำเนินคดีตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 8 ก.ย. 68 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน , สมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันเป็นอั้งยี่

สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ คือ MR. WANG อายุ 40 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 5217/2568 , น.ส.ริญญภัสร์ฯ อายุ 33 ปี , นางพรปวีณ์ฯ อายุ 48 ปี , นายศักดิ์สิทธิ์ฯ อายุ 42 ปี, นายธนภาคย์ฯ อายุ 53 ปี , นายยรรยงฯ อายุ 32 ปี , นายโยธินฯ อายุ 47 ปี และ นายศาสตราวุธฯ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลัก พร้อมกับผู้ต้องหาอีก 7 ราย รวม ผู้ต้องหาทั้งหมด 15 ราย พร้อมของกลางที่ตรวจยึดได้ รถยนต์หรู 9 คัน , กระเป๋าและเครื่องประดับแบรนด์เนม 40 รายการ , เงินสดหลายสกุล มูลค่ารวมประมาณ 300,000 บาท , โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 29 รายการ , สมุดบัญชีธนาคาร/บัตร ATM 100 รายการ , ซิมการ์ด 10 ซิม และพระเครื่อง 23 องค์ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 21 ล้านบาท

จากการสืบสวนสอบสวนขบวนการนี้เริ่มก่อเหตุช่วงปลายเดือนพ.ค. 68 โดยใช้ โฆษณาบนเฟซบุ๊ก ชักชวนให้ลงทุนซื้อขายหุ้นผ่านเว็บไซต์ปลอม เช่น FINNIXMAX และ CGS International ผู้เสียหายจะถูกเชิญเข้ากลุ่ม LINE OPENCHAT มีหน้าม้าแฝงตัวกว่า 100 คน ทำหน้าที่พูดคุย แนะนำการลงทุน และสร้างความน่าเชื่อถือ ในช่วงแรกผู้เสียหายสามารถถอนเงินได้จริง เพื่อสร้างความมั่นใจ แต่หลังจากโอนเงินลงทุนเพิ่ม กลับไม่สามารถถอนออกได้ ระบบแจ้งว่าถูกชะลอ และไม่สามารถติดต่อผู้ดูแลได้ ส่วนการแบ่งหน้าที่ของแก๊งนี้จะมีกลุ่มจัดหาบัญชีม้านิติบุคคล รับโอนเงินจากเหยื่อกลุ่มถอนเงินสดจากธนาคาร และส่งต่อให้หัวหน้าขบวนการ กลุ่มล่ามและประสานงานกับชาวจีนผู้บงการ สุดท้ายกลุ่มฟอกเงิน ดูแลเส้นทางการเงินและการเบิกถอน ในส่วนของค่าจ้างนั้นจะได้รับเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดเบิกถอน หรือเป็นค่าตอบแทนต่อครั้ง 1,000–10,000 บาท ขึ้นอยู่กับหน้าที่

จากการสอบปากคำ MR. WANG ชาวจีน และ น.ส.ริญญภัสร์ ผู้ต้องหาหลัก ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าเคยไปรับเงินสดตามคำสั่งของบุคคลชาวจีนอีกคนหนึ่ง ส่วนผู้ต้องหาคนไทยหลายรายยอมรับข้อเท็จจริงบางส่วน เช่น การเบิกถอนเงินสด และส่งมอบให้เครือข่าย

ด้าน พล.ต.ต.อธิป ระบุว่า “ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ จุดต้นทางของการโทรหลอกยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัด จึงยังไม่ขอตอบโดยตรง”

พ.ต.อ.สุพจน์ เสริมว่า “คดีนี้เวลาผู้เสียหายโอนเงิน จะนัดหมายให้คนถือบัญชีส่วนบุคคลไปรอที่ห้างสรรพสินค้าหรือร้านกาแฟ จากนั้นมีการส่งสัญญาณให้โอนเงินตามนัด เงินจะเด้งเข้าบัญชี แล้วถอนออกภายใน 2 นาที ถือเงินสดไว้ให้ระดับบน ก่อนนำไปแปลงเป็นคริปโตส่งต่อนายทุน”

นอกจากนี้ พล.ต.ต.อธิป ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการใช้ AI ปลอมตัว เหมือนกับที่หลายคนสงสัย เป็นเพียงการใช้ภาพนิ่งประกอบการหลอกลวงเท่านั้น

ทั้งนี้จากการตรวจสอบระบบแจ้งความออนไลน์ พบว่าเครือข่ายนี้เกี่ยวข้องกับ 265 คดี ความเสียหายรวมกว่า 654 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการหลอกลงทุนเทรดหุ้นออนไลน์ และมีการแอบอ้างชื่อบุคคลผู้มีชื่อเสียงหลายราย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts