เกิดเหตุสลดเมื่อมีผู้พบศพชายไม่ทราบชื่อเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้า สน.หัวหมากเก่า เมื่อเช้าวันนี้ (16 ก.ย.) เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ชายคนดังกล่าวน่าจะเสียชีวิตจากบาดแผลที่ศีรษะ ซึ่งเกิดจากการล้มหัวฟาดพื้นขณะเมาสุราและอาละวาดเมื่อคืนที่ผ่านมา
พ.ต.ท.วิชิต ภาเรือง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพชายอายุประมาณ 50 ปี สวมเสื้อกีฬาและกางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลแตกที่ศีรษะและมีคราบเลือดนองพื้น จากการตรวจสอบโดยรอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แพทย์ชันสูตรเบื้องต้นยืนยันว่าบาดแผลดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการถูกทำร้าย และนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของคืนวานนี้ (15 ก.ย.) เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.หัวหมาก ได้รับแจ้งเหตุชายเมาสุราอาละวาดที่ซอยรามคำแหง 43 เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชายคนดังกล่าวล้มหัวฟาดพื้นจนหมดสติ จึงประสานหน่วยกู้ภัยให้มารับตัวไปโรงพยาบาล
แต่เมื่อกู้ภัยมาถึง ชายคนดังกล่าวได้ฟื้นและอาละวาดไม่หยุด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ผ้าจับมัดมือมัดเท้าเพื่อควบคุมพฤติกรรม เนื่องจากไม่พบเอกสารใด ๆ ในตัวและพูดจาไม่รู้เรื่อง คาดว่าเป็นชาวต่างด้าว จึงนำตัวมาส่งที่บริเวณหน้า สน.หัวหมากเก่า ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตในตอนเช้า
ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีชายวัย 37 ปี ผูกคอเสียชีวิตในพื้นที่ สน.บางเสาธง โดยยืนยันว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าผู้เสียชีวิตถูกระงับบัญชีตามที่เพื่อนผู้ตายให้ข้อมูล และมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยเพื่อนของผู้เสียชีวิตได้แจ้งเหตุและให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตได้บ่นเครียดเรื่องถูกระงับบัญชีที่เชื่อมโยงกับบัญชีม้า อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวน่าจะคลาดเคลื่อน เนื่องจากตำรวจนครบาลได้ตรวจสอบแล้วพบว่าผู้เสียชีวิตไม่ได้ถูกระงับบัญชีแต่อย่างใด
“ผู้เสียชีวิตมีประวัติเคยเสพยาเสพติด” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว และได้สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมว่าสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงเกิดจากอะไร พร้อมทั้งจะเรียกเพื่อนของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำอีกครั้งเพื่อยืนยันข้อมูลที่ได้รับมา
เมื่อถูกถามถึงกรณีที่หากพบว่าผู้เสียชีวิตเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าจริง จะมีการเยียวยาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ต้องรอการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องก่อน หากสาเหตุเกิดจากเรื่องหนี้สินก็ต้องพูดคุยกับครอบครัวเพื่อพิจารณาความช่วยเหลือ ส่วนกรณีหากพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้กระทำผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย และอาจเป็นความกดดันที่ผู้กระทำผิดได้รับ จนนำไปสู่การจบชีวิตตัวเอง ซึ่งทุกอย่างต้องรอผลการชันสูตรและตรวจสอบโดยละเอียดต่อไป



