เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 19 ก.ย.68 จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พร้อมด้วย อาจารย์มานพ สีเหลือง ได้พา นายชาญ (สงวนนามสกุล)อายุ 58 ปี และ นางเพ็ญ อายุ 51 ปี สองสามีภรรยาชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าพบ พงส.บก.ป.หลังถูกแรงงานชาวกัมพูชาลักทรัพย์สินภายในบ้านพักและร้านตัดเย็บเสื้อผ้าในเขตดินแดง ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายสูงถึงกว่า 1.5 ล้านบาท แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าแม้จะผ่านไปแล้วกว่า 10 เดือน
นายชาญ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าขายส่ง โดยมีบ้านพักอยู่ที่ซอยประชาสงเคราะห์ 2 และได้เช่าบ้านใกล้เคียงเป็นที่พักให้กับแรงงานชาวกัมพูชาจำนวน 6-8 คน เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ขณะที่ตนและภรรยาเดินทางกลับต่างจังหวัด แรงงานชาวกัมพูชา 3 คน (ชาย 1 คน หญิง 2 คน) ที่มักเข้ามาส่งงานเป็นประจำ ได้แอบเข้าไปลักทรัพย์สินภายในบ้านพักหลายรายการ
ทรัพย์สินที่สูญหายไปประกอบด้วย พระเครื่อง หลวงปู่ทวด สมเด็จ และพระเก่าหายาก, เสื้อผ้า และกางเกงสำเร็จรูปตามออเดอร์ลูกค้า, ผ้ากระเป๋ากางเกงแบรนด์ดัง “ดิ้กกี้” กว่า 1,000 ชิ้น รวมถึงของสะสมและของใช้ส่วนตัวอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้มีมูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 1.5 ล้านบาท
หลังเกิดเหตุ นายชาญเล่าว่า ตนและครอบครัวรู้สึกเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ และเกิดปัญหาภายในครอบครัว จึงสงสัยว่าอาจถูกแรงงานกลุ่มนี้ “เล่นของใส่” ผ่านอาหารและน้ำที่นำมาให้ ทำให้ลังเลที่จะดำเนินคดีในทันที
เมื่อวันที่ 1 พ.ค.นายชาญได้แจ้งตำรวจสายตรวจที่รู้จักให้เข้าตรวจสอบบ้านพักของแรงงาน แต่เจ้าหน้าที่กลับพบเพียงแค่ “ยาไอซ์ 1 ถุง” และไม่ได้มีการค้นหาทรัพย์สินที่สูญหาย หรือดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด
จนกระทั่งวันที่ 10 พ.ค.นายชาญได้เข้าแจ้งความและลงบันทึกประจำวันเพิ่มเติม แต่คดีก็ยังคงไม่มีความคืบหน้า ครอบครัวจึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนผ่านเพจ “จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่” เพื่อให้คดีได้รับความสนใจและมีการติดตามอย่างจริงจัง
ด้านอาจารย์มานพ สีเหลือง ให้ความเห็นว่า คดีนี้เข้าข่าย “ลักทรัพย์ในเคหสถาน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ซึ่งมีโทษรุนแรงกว่าการลักทรัพย์ทั่วไป เพราะแม้ผู้ต้องสงสัยจะเคยได้รับอนุญาตให้เข้าบ้าน แต่การลักทรัพย์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อยู่อาศัยก็ยังถือเป็นการกระทำผิดในเคหสถานอย่างชัดเจน
อาจารย์มานพ ยังกล่าวเสริมว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่นายจ้างจะต้องบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างรัดกุม ทั้งเรื่องเอกสาร ที่พัก และพฤติกรรม พร้อมทั้งแนะนำให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ทำประกันทรัพย์สิน และจ้างงานผ่านบริษัทที่ถูกกฎหมายเพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว
นายชาญและภรรยายืนยันว่า ไม่ได้ต้องการใส่ร้ายแรงงานใด ๆ เพียงแต่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ และติดตามทรัพย์สินที่สูญหายกลับคืน เพื่อให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรม และไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับใครอีกในอนาคต
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้ประสานไปยังสน. ดินแดง ก่อนนำผู้เสียหายกลับไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อเร่งรัดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



















