วันศุกร์, กันยายน 19, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมช่างตัดเสื้อชาวนครศรีฯ ร้อง “จ่าคิงส์” ช่วยเหลือ หลังถูกแรงงานเขมรลักทรัพย์ร่วมล้านห้า แจ้งความแล้วคดีไม่คืบ

Related Posts

ช่างตัดเสื้อชาวนครศรีฯ ร้อง “จ่าคิงส์” ช่วยเหลือ หลังถูกแรงงานเขมรลักทรัพย์ร่วมล้านห้า แจ้งความแล้วคดีไม่คืบ

เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 19 ก.ย.68 จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พร้อมด้วย อาจารย์มานพ สีเหลือง ได้พา นายชาญ (สงวนนามสกุล)อายุ 58 ปี และ นางเพ็ญ อายุ 51 ปี สองสามีภรรยาชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าพบ พงส.บก.ป.หลังถูกแรงงานชาวกัมพูชาลักทรัพย์สินภายในบ้านพักและร้านตัดเย็บเสื้อผ้าในเขตดินแดง ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายสูงถึงกว่า 1.5 ล้านบาท แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าแม้จะผ่านไปแล้วกว่า 10 เดือน

นายชาญ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าขายส่ง โดยมีบ้านพักอยู่ที่ซอยประชาสงเคราะห์ 2 และได้เช่าบ้านใกล้เคียงเป็นที่พักให้กับแรงงานชาวกัมพูชาจำนวน 6-8 คน เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ขณะที่ตนและภรรยาเดินทางกลับต่างจังหวัด แรงงานชาวกัมพูชา 3 คน (ชาย 1 คน หญิง 2 คน) ที่มักเข้ามาส่งงานเป็นประจำ ได้แอบเข้าไปลักทรัพย์สินภายในบ้านพักหลายรายการ


ทรัพย์สินที่สูญหายไปประกอบด้วย พระเครื่อง หลวงปู่ทวด สมเด็จ และพระเก่าหายาก, เสื้อผ้า และกางเกงสำเร็จรูปตามออเดอร์ลูกค้า, ผ้ากระเป๋ากางเกงแบรนด์ดัง “ดิ้กกี้” กว่า 1,000 ชิ้น รวมถึงของสะสมและของใช้ส่วนตัวอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้มีมูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 1.5 ล้านบาท
หลังเกิดเหตุ นายชาญเล่าว่า ตนและครอบครัวรู้สึกเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ และเกิดปัญหาภายในครอบครัว จึงสงสัยว่าอาจถูกแรงงานกลุ่มนี้ “เล่นของใส่” ผ่านอาหารและน้ำที่นำมาให้ ทำให้ลังเลที่จะดำเนินคดีในทันที


เมื่อวันที่ 1 พ.ค.นายชาญได้แจ้งตำรวจสายตรวจที่รู้จักให้เข้าตรวจสอบบ้านพักของแรงงาน แต่เจ้าหน้าที่กลับพบเพียงแค่ “ยาไอซ์ 1 ถุง” และไม่ได้มีการค้นหาทรัพย์สินที่สูญหาย หรือดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด

จนกระทั่งวันที่ 10 พ.ค.นายชาญได้เข้าแจ้งความและลงบันทึกประจำวันเพิ่มเติม แต่คดีก็ยังคงไม่มีความคืบหน้า ครอบครัวจึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนผ่านเพจ “จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่” เพื่อให้คดีได้รับความสนใจและมีการติดตามอย่างจริงจัง

ด้านอาจารย์มานพ สีเหลือง ให้ความเห็นว่า คดีนี้เข้าข่าย “ลักทรัพย์ในเคหสถาน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ซึ่งมีโทษรุนแรงกว่าการลักทรัพย์ทั่วไป เพราะแม้ผู้ต้องสงสัยจะเคยได้รับอนุญาตให้เข้าบ้าน แต่การลักทรัพย์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อยู่อาศัยก็ยังถือเป็นการกระทำผิดในเคหสถานอย่างชัดเจน

อาจารย์มานพ ยังกล่าวเสริมว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่นายจ้างจะต้องบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างรัดกุม ทั้งเรื่องเอกสาร ที่พัก และพฤติกรรม พร้อมทั้งแนะนำให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ทำประกันทรัพย์สิน และจ้างงานผ่านบริษัทที่ถูกกฎหมายเพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว

นายชาญและภรรยายืนยันว่า ไม่ได้ต้องการใส่ร้ายแรงงานใด ๆ เพียงแต่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ และติดตามทรัพย์สินที่สูญหายกลับคืน เพื่อให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรม และไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับใครอีกในอนาคต


เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้ประสานไปยังสน. ดินแดง ก่อนนำผู้เสียหายกลับไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อเร่งรัดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts