วันที่ 19 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่บรรดาผู้เสียหายจำนวนกว่า 50 รายเดินทางเข้าพบพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม (ว่าที่ ผบก.ปทส.)
โดย บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้มอบให้ พงส.บก.ป. รับเป็นคดี สำหรับผู้เสียหายคนที่ฟ้องศาลเป็นคดีแพ่งก็สามารถมาแจ้งความฟ้องรวมกับพวกที่มาร้อง บช.ก.ได้ ให้เป็นคดีอาญา(ฉ้อโกงประชาชน) โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ แนะนำว่า ให้ผู้เสียหายรวมตัวและแบ่งผู้เสียหายเป็น 4 ภาคตามพื้นที่ที่สร้างบ้านไม่เสร็จหรือทิ้งงาน เพื่อให้พนักงานสอบสวน แต่ละกองกำกับรับผิดชอบการสอบสวนผู้เสียหายกลุ่มนั่นๆ เฉพาะที่มาพบวานนี้มีกว่า 50 ราย ส่วนผู้เสีบหายรายอื่นในไลน์กลุ่มซึ่งปัจจุบันมีถึง 176 ราย เบื้องต้นวานนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามรับแจ้งความ และทยอยสอบปากคำ กก.ละ 3 ราย รวบรวมพยานหลักฐานทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่านายนฤพล (สงวนนามสกุล) กรรมการผู้จัดการบริษัท ชื่อดัง ที่รับเหมาก่อสร้างบ้าน แล้วไม่เสร็จ ได้ชี้แจงผ่านรายการทีวีช่องดังช่องหนึ่ง โดยเบื้องต้นขอสงวนชื่อบริษัทไว้ก่อน ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยที่บริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ต้องเจอ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันทีและ ยืนยันว่าบ้านทุกหลังสร้างตามมาตรฐาน ที่ บริษัทกำหนด ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้การ ทำงานล่าช้า มาจากการหาช่าง ในพื้นที่จังหวัดตราด 3 หลัง คนละเจ้าของ ซึ่งช่วงที่ทำให้ลูกค้าไม่พอใจ คือช่วงที่ตอนนั้นไทยกับกัมพูชารบกันอยู่ 2 เดือนทำให้แรงงานในพื้นที่ขาดแคลน
อีกส่วนหนึ่งที่เกิดปัญหาคือภาคใต้ 4 หลัง เนื่องจากเป็นพื้นที่ๆ มีฝนตกบ่อยทำให้การทำงานมีความล่าช้าแต่ปัจจุบันทางบริษัทได้เร่งแก้ปัญหาโดยการส่งทีม เข้าดำเนินการต่อ
ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจมีการติดตามงานตลอดตั้งใจที่จะเร่งรัดให้แล้วเสร็จตามแผน
ส่วนกรณีการสำรองค่าวัสดุทางบริษัทขอชี้แจงว่าไม่ใช่ข้อบังคับแต่เป็นทางเลือกของลูกค้าที่ต้องการให้ได้วัสดุซึ่งทางบริษัทสามารถให้ลูกค้าซื้อวัสดุได้โดยตรงจากทางร้านหลังจากนั้นนำบิลใบเสร็จมาหักชำระค่างวด โดยส่วนใหญ่ 90% ลูกค้าเลือกใช้วิธีการนี้และยอมรับเงื่อนไข เนื่องจากการทำตามขั้นตอนของบริษัทอาจจะใช้เวลานาน 7 – 10 วัน
ส่วนสัญญาต่างๆ ที่ลูกค้า มองว่าถูกบริษัทเอาเปรียบขอยืนยันว่าสัญญาค่างวดต่างๆได้ยึดตามอย่างรูปแบบเดียวกับทุกธนาคารและบริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ก็ใช้รูปแบบเดียวกันก่อนเซ็นสัญญาในเอกสารก็มีการ ระบุข้อ ตกลง กันอย่างชัดเจน ยืนยันว่าจะเร่งมอบส่งบ้านหลายหลังให้ทันภายในสิ้นปีนี้และส่วนที่เหลือจะทยอยให้แล้วเสร็จในช่วงปีหน้าและจะเจริญจาแก้ปัญหาร่วมกันกับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทุกกรณี














