“มนุษยชาติกำลังมาถึงทางแยกอีกครั้ง ใครก็ตามที่ห่วงใยสถานการณ์ของโลก คงอยากตั้งคำถามว่า เหตุใดมนุษย์ที่ผ่านพ้นความทุกข์ยากมาได้แล้ว จึงไม่ตระหนักในมโนธรรม และเหตุผล เหตุใดเราจึงนิ่งเฉย ต่อการเหยียบย่ำความเป็นธรรมและความยุติธรรม ทั้งที่ควรปฏิบัติต่อกันด้วยความเมตตา และอยู่ร่วมกันอย่างสันติ”
หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เอ่ยคำพูดดังกล่าวระหว่างการอภิปรายทั่วไป ของการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) สมัยที่ 80 ซึ่งจัดขึ้นที่มหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (26 ก.ย.) ที่ผ่านมา
หลี่ กล่าวว่า “ความเป็นธรรมและความยุติธรรม คือค่านิยมสำคัญที่สุด ของประชาคมระหว่างประเทศ สันติภาพและการพัฒนา คือความปรารถนาอันแรงกล้าของโลก ขณะที่ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และความร่วมมือ คือพลังสำคัญที่สุด สำหรับความก้าวหน้าของมนุษยชาติ”
เขาสำทับอีกว่า พวกเรามีบทเรียนล้ำค่า สามารถเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ได้ จีนในฐานะหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งสหประชาชาติ มีบทบาทแข็งขัน ในกิจการระหว่างประเทศ และทำงานเพื่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติเสมอมา
เขายังยกวิสัยทัศน์ของ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่ได้เสนอการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ รวมถึงแผนริเริ่มการพัฒนาโลก (GDI) แผนริเริ่มความมั่นคงโลก (GSI) แผนริเริ่มอารยธรรมโลก (GCI) และแผนริเริ่มธรรมาภิบาลโลก (GGI) เพื่อแบ่งปันภูมิปัญญาและแนวทางของจีน ในการรับมือการเปลี่ยนแปลง และความท้าทายระดับโลก
หลี่ตั้งคำถามว่า เมื่อเผชิญกับหายนะด้านมนุษยธรรม เหตุใดเราจึงนิ่งเฉยต่อการเหยียบย่ำ ความเป็นธรรมและความยุติธรรม เมื่อเราเจอการใช้อำนาจครอบงำรังแก ทำไมเราจึงยอมจำนน เพียงเพราะหวาดกลัว เราจะปล่อยให้ความมุ่งมั่น และการอุทิศตนของบรรพบุรุษ ผู้ก่อตั้งสหประชาชาติ เลือนหายไปในหน้าประวัติศาสตร์ได้อย่างไร
หลี่ระบุว่า จีนจะยังคงเป็นผู้พิทักษ์สันติภาพและความมั่นคงโลก ยึดมั่นในการแลกเปลี่ยน และเรียนรู้ระหว่างอารยธรรม การแสวงหาสันติภาพ เป็นพันธกิจร่วมของประชาคมโลก แม้เราไม่อาจย้อนเวลากลับไปสู่ชัยชนะในอดีต แต่เราสามารถร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีกว่าได้แน่นอน