วันอังคาร, กันยายน 30, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมดราม่าหน้าร้านสะดวกซื้อ จอดรถเก็บกาแฟ โดนเด็กชนกระจกหัก แถมโดนโพสต์คลิปประจาน อดีต สห.ทอ. "จ่าคิงส์ แตงทิม" พร้อมลุยช่วยผู้เสียหาย

Related Posts

ดราม่าหน้าร้านสะดวกซื้อ จอดรถเก็บกาแฟ โดนเด็กชนกระจกหัก แถมโดนโพสต์คลิปประจาน อดีต สห.ทอ. “จ่าคิงส์ แตงทิม” พร้อมลุยช่วยผู้เสียหาย

วันที่ 30 ก.ย.68 เวลา 10.00 น. ที่บริเวณหน้าแดนเนรมิตเก่า ริมฟุตบาท จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. และ อาจารย์ มานพ สีเหลือง ทีมงานฯ พา นายกิตติ (สงวนนามสกุล) เจ้าของตู้กดกาแฟสด เข้าร้องทุกข์พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ให้เข้าช่วยเหลือกรณีถูกพนักงานร้านสะดวกซื้อรายหนึ่งขับรถจักรยานยนต์มาจอดใกล้กับรถยนต์ส่วนตัว ก่อนจะเดินชนเข้ากับ กระจกมองข้าง รถของตนจนได้รับความเสียหายหักไป 1 ข้าง แต่กลับไม่ได้รับผิดชอบค่าเสียหาย อีกทั้งยังมีการนำคลิปเหตุการณ์ไปโพสต์ลงสื่อออนไลน์ในลักษณะ หมิ่นประมาท จนเจ้าของรถได้รับความเสียหายทางสังคมอย่างหนัก

นายกิตติ เผยว่า ในวันเกิดเหตุตนได้จอดรถยนต์บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน เพื่อลงไปเก็บเงินจาก ตู้กดกาแฟสด ที่ตนติดตั้งไว้หน้าร้าน จากนั้นไม่นาน พนักงานร้านสะดวกซื้อคนดังกล่าวได้ขับรถจักรยานยนต์มาจอดใกล้รถตน ก่อนจะเดินชนเข้ากับกระจกมองข้างรถจนหัก เมื่อตนเรียกให้พนักงานคนดังกล่าวรับผิดชอบค่าซ่อมแซม โดยได้มีการประเมินราคาซ่อมและเปลี่ยนเป็นอะไหล่มือสอง แต่ปรากฏว่าเรื่องราวกลับไม่จบลงด้วยดี

พนักงานร้านคนดังกล่าวได้ ดึงคลิปเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นไปโพสต์ลงช่องทางออนไลน์ โดยมีข้อความในทำนองที่ว่า “ชนนิดเดียวหักได้อย่างไร” ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลอย่างรุนแรง ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามา คอมเมนต์กล่าวหา คุณกิตติว่าเป็นฝ่าย โกง, กล่าวหาว่ารถพังอยู่แล้วมา “วางยาคนอื่น” และ “ตั้งใจหาคนรับผิดชอบ” รวมถึงการ หมิ่นประมาท ในรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย โดยคลิปดังกล่าวถูกรับชมไปแล้วกว่า 1 แสนครั้ง ส่งผลให้คุณกิตติได้รับความเดือดร้อน เสียหายต่อชื่อเสียง และความรู้สึกจากการกระทำของพนักงานร้านคนนั้นเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ การที่พนักงานร้านนำคลิปของผู้เสียหายไปโพสต์ออนไลน์โดย ไม่ได้รับอนุญาต และมีการกล่าวหาที่ทำให้ผู้เสียหายถูกดูถูกเกลียดชัง ก็เข้าข่ายความผิดในเรื่องของการ นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ด้วย

จึงตัดสินใจเข้าพบ จ่าคิงส์ แตงทิม เพื่อขอให้จ่าคิงส์ช่วยเป็นคนกลางพาเข้าพบ พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับพนักงานร้านคนดังกล่าว ใน ข้อหาหมิ่นประมาท และแจ้งความการกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ต่อไป เพื่อเรียกคืนความเป็นธรรมให้กับตนเองที่ถูกละเมิดสิทธิ์และถูกกระทำอย่างไม่ยุติธรรมในครั้งนี้

ด้าน อาจารย์มานพ กล่าวว่า ตนดู คลิปเหตุการณ์ในห้างฯ ที่เผยแพร่ในช่องยูทูป ‘มันหลุดอยู่แล้วไหม’ ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 6 แสนคน และมียอดรับชมมากถึง 2.3 ล้านครั้ง คอมเมนต์กว่า 2,600 ข้อความ และกดไลค์กว่า 15,000 ครั้งนั้น ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้เสียหายในหลายมิติ ทั้งชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และโอกาสทางการค้า จนทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่ควรมองข้าม

การโพสต์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดทางกฎหมายหลายประการ ได้แก่

  1. นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14(1) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน มีโทษหนัก หากพิสูจน์ได้ว่าข้อความที่โพสต์ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและผู้เสียหายเดือดร้อน
  2. หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ที่ทำให้ผู้เสียหายถูกตราหน้าว่าเป็นมิจฉาชีพ ถูกดูหมิ่น และถูกด้อยค่าในสายตาสาธารณชน
  3. ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย จากผลกระทบทางธุรกิจ การเสียลูกค้า เสียความเชื่อมั่น และโอกาสทางการค้าในพื้นที่

ประเด็นที่สังคมสงสัยว่ากระจกติดกาวมาก่อนหรือไม่ เป็นสิ่งที่ควรพิสูจน์ด้วยหลักฐาน ไม่ควรใช้คลิปไม่กี่วินาทีมาตัดสินทั้งชีวิตคน เพราะแม้ผู้เสียหายจะยอมรับราคาซ่อม 1,800 บาทตามสภาพของเก่า แต่การถูกตราหน้าในโลกออนไลน์สร้างบาดแผลลึกกว่าที่หลายคนคิด”

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts