“…เมื่อเวลา16.00น.วันที่3มิ.ย.2565. เพจเฟสบุ๊คชื่อว่า เทศบาลเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี ได้โพสต์ข้อความว่า “ แจ้งเตือนห้ามปีนป่ายสถานที่สาธารณะจุดชมวิวเขาสามมุขห้ามประชาชน หรือนักท่องเที่ยวปีนป่ายสถานที่สาธารณะจุดวิวเขาสามมุข โดยเด็ดขาด…”
[inline_related_posts title=”คุณอาจสนใจเรื่องเหล่านี้” title_align=”left” style=”list” number=”4″ align=”none” ids=”” by=”categories” orderby=”rand” order=”DESC” hide_thumb=”no” thumb_right=”no” views=”no” date=”yes” grid_columns=”2″ post_type=”” tax=””]
เนื่องจากอาจเกิดอันตรายต่อชีวิต และสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งทางเทศบาลเมืองแสนสุข โดยท่านนายกณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข มีนโยบายปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณจุดชมวิวเขาสามมุข เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยเอื้อประโยชน์ในการใช้สอยทั้งการพักผ่อนหย่อนใจ และการออกกำลังกาย รวมถึงเป็น Landmark ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป เช็คอิน เป็นจำนวนมาก ดังนั้นขอความร่วมมือทุกท่านร่วมกันดูแลรักษา สิ่งของ และสถานที่สาธารณะ ที่ท่านใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ควรทำลายหรือสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของทางราชการ “ พร้อมกับรูปภาพที่มีนักท่องเที่ยวกำลังปีนขึ้นบนป้ายบริเวณจุดชมวิวขอฃเขาสามมุขที่มีนักท่องเที่ยวกำลังถ่ายรูปชมวิวธรรมชาติ
ต่อมาวันนี้ 3 มิถุนายน 65 เวลา 16.30 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบริเวณจุดชมวิวเขาสามมุข ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี พบนักท่องเที่ยวกำลังเดินทางมาเที่ยวให้อาหารลิงบนเขาสามมุขกันอย่างต่อเนื่องและขับรถขึ้นมาถ่ายรูปบริเวณยอดเขากันไม่ขาดสายจากการสอบถามนส.อรอนงค์ บุตรอินทร์ อายุ 25 ปีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจาก อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีเปิดเผยว่าจากที่ได้เห็นภาพของนักท่องเที่ยวที่กำลังปีนชึ้นป้ายของจุดชมวิวนั้นตนมองแล้วรู้สึกว่าไม่สมควรเป็นอย่างมากเพราะจุดชมวิวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเป็นที่สาธารณะที่ไม่ควรมาทำอะไรแบบนี้ตนอยากฝห้ช่วยกันรักษาความสะอาดและช่วยกันทำสิ่งดีๆให้กับสถานที่ดีกว่าทำแบบนี้นอกจากจะดูไม่ดีแล้วยังทำตัวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเด็กและเยาวชนที่พบเห็นอีกด้วยอยากให้เลิกทำแบบนี้เถอะและยังเล่าอีกว่าจากที่ทางรัฐบาลได้มีการปลดล๊อกให้ถอดแมสในสถานที่เปิดโล่งตนก็รู้สึกว่าดีมากในการใช้ชีวิตและทำกิจประจำวันในชีวิตไม่รู้สึกว่ากลัวอะไรเลยแต่ก็ไม่ประมาทในการใช้ชีวิตและป้องกันตัวเองให้ดีแค่นี้เราก็สามารถใช้ชีวิตแบบการถอดแมสได้แล้วแบบปลอดภัยอีกด้วย
