พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำชุมชนคชานุรักษ์บ้านเขาใหญ่ จังหวัดชลบุรี เดินหน้าสานต่อพระราชดำริในหลวงและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าอย่างยั่งยืน
วันนี้ (6 พฤศจิกายน 2568) เวลา 09.30 น. ที่ ชุมชนคชานุรักษ์บ้านเขาใหญ่ หมู่ 4 ตำบลพลวงทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานเปิด “โครงการพัฒนาแหล่งน้ำในชุมชนคชานุรักษ์บ้านเขาใหญ่” เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านน้ำแก่ประชาชน พร้อมฟื้นฟูระบบนิเวศให้เกิดความสมดุลระหว่างคนกับช้างป่า
ภายในงานมี นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายนันทวัฒน์ ทองช่วง นายอำเภอบ่อทอง, นายศรายุทธ คเชนรัมย์ รองประธานบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคทรอนิคส์ จำกัด ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่กว่า 100 คน เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
พลเอก เฉลิมชัย กล่าวว่า โครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์เกิดขึ้นจาก พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงห่วงใยต่อปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และสระแก้ว โดยมี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ เพื่อขับเคลื่อนแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
ทั้งนี้ มูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ดำเนินงานภายใต้แผน 5 ด้านหลัก ได้แก่
1.การดูแลและอนุรักษ์ช้างป่า
2.การสกัดกั้นและเฝ้าระวังป้องกันช้างป่า
3.การดูแลประชาชนในพื้นที่เสี่ยง
4.การวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้
5.การสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย
สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในชุมชนบ้านเขาใหญ่ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคทรอนิคส์ จำกัด เพื่อดำเนินการขุดลอกคลองตะเคียน ปลูกหญ้าแฝกรวม 293 ต้น พร้อมจัดกิจกรรมจิตอาสาปลูกต้นไม้สองฝั่งคลอง ปล่อยพันธุ์ปลา และมอบถุงยังชีพให้ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสจำนวน 30 ชุด
โครงการดังกล่าวนับเป็นอีกก้าวสำคัญของการร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน สะท้อนพลังแห่งความสามัคคีของชาวบ่อทองในการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อสืบสานพระราชดำริแห่งความสมดุลระหว่าง “คนกับช้างป่า” ให้คงอยู่คู่ผืนป่าตะวันออกอย่างกลมกลืนและยั่งยืนสืบไป.













