“…ขานรับ “วาระแห่งชาติ” ทันควัน! “ปปง.” เปิดเกมรุกเต็มสูบ ในฐานะ “แม่ทัพ” สกัดเส้นทางการเงิน เรียกทุกขุมกำลังหลัก ทั้งแบงก์, ค้าทอง, คริปโต วางแนวรบใหม่ ปิดตายเส้นทาง “บัญชีม้า” เพื่อปกป้องทรัพย์สินของคนไทยทุกคน…”
ปฏิบัติการเชิงรุกครั้งสำคัญนี้ เกิดขึ้นเพียง 1 วัน (7 พ.ย. 68) หลังนายกรัฐมนตรี “อนุทิน” ประกาศสงครามกับสแกมเมอร์ สะท้อนการขับเคลื่อนที่รวดเร็วและเด็ดขาดของ ปปง. ในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายฟอกเงิน

นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. นั่งหัวโต๊ะบัญชาการด้วยตนเอง นี่ไม่ใช่แค่การ “ขอความร่วมมือ” แต่คือการ “บูรณาการ” ครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อยกระดับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทั้งระบบ
ปปง. ในฐานะหน่วยงานหลัก ได้ส่ง “อาวุธ” สำคัญ นั่นคือ “บัญชีดำ” รายชื่อบุคคลและนิติบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง มอบให้ทุกสถาบันการเงินนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการสอดส่อง เฝ้าระวัง และคัดกรองธุรกรรมต้องสงสัย เป้าหมายชัดเจน: อุดทุกรูรั่ว!
ปปง. ได้สั่งการและกำชับให้มาตรการ KYC (การรู้จักตัวตนลูกค้า) และ EDD (การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริง) ต้องทำงานเต็มประสิทธิภาพ 100% เพื่อให้การสกัดกั้นเส้นทางการเงินของอาชญากร เป็นไปอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพสูงสุด
นี่คือการ “ผนึกกำลัง” ครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างรัฐและเอกชน ภายใต้การนำของ ปปง. ที่ส่งสัญญาณชัดเจนว่า… แผ่นดินไทย ต้องไม่เป็นที่ฟอกเงินของอาชญากรอีกต่อไป!
#สืบจากข่าว รายงาน




