กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย พล.ต.ท. ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต. โสภณ สารพัฒน์, พล.ต.ต. ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบช.ก. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ. ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ. สำเริง อำพรรณทอง, พ.ต.อ. พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. ปฏิบัติการจับกุมหมอฟันเถื่อน จำนวน 4 ราย ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี และปทุมธานี
พฤติการณ์สืบเนื่องจากตามที่ปรากฏข่าวในสังคมออนไลน์ ว่ามีบุคคลอายุประมาณ 20 ปี เข้ารับการจัดฟันแฟชั่นจากบุคคลที่ไม่ใช่ทันตแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรม จนเป็นเหตุให้ฟันผุ มีหนอง ติดเชื้อเข้ากระแสเลือด เยื่อบุหัวใจติดเชื้อ ลิ้นหัวใจรั่ว ต้องผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้เฝ้าระวัง สืบสวน และระดมกวาดล้างทันตแพทย์เถื่อน สถานพยาบาลเถื่อน ในห้วงเดือนพฤศจิกายน 2568 จำนวน 4 จุด ดังนี้
1. ห้องพักแห่งหนึ่งภายในโครงการเอื้ออาทรเสมาฟ้าคราม ตึก 16 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 จับกุม น.ส. ณัฏฐนิช (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี และดำเนินคดีในข้อหา “ประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” ตรวจยึดของกลาง เหล็กจัดฟัน, ลวดจัดฟัน, คีมตัดลวด, กาว และอุปกรณ์จัดฟันอื่นรวม 9 รายการ จำนวน 10 ชิ้น โดย น.ส. ณัฏฐนิชฯ ใช้วิธีเปิดเพจโฆษณาในเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “จัดฟันแฟชั่นรังสิต ปทุมธานี” ซึ่งมีผู้ติดตามถึงเกือบ 1,000 คน โดยเปิดบ้านพักของตนเองให้บริการจัดฟันแฟชั่นให้แก่ประชาชนทั่วไป ผู้ต้องหารายนี้รับว่าจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยก่อนหน้านี้เคยให้บริการรับทำเล็บแต่รายได้ไม่ดี จึงศึกษาวิธีการจัดฟันจาก YouTube ซื้ออุปกรณ์การจัดฟันจาก Shopee ทำมาประมาณ 1 ปี มีลูกค้ามาจัดฟันแฟชั่นแล้วประมาณ 40 คน
2. บริเวณตลาดสดย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 จับกุมตัว นายเจษฎาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี พร้อมด้วยของกลาง เบ้าเหล็กพิมพ์ฟัน, ฟันปลอมสำเร็จ และอุปกรณ์ทำฟันอื่น ๆ รวม 10 รายการ จำนวน 103 ชิ้น ดำเนินคดีในข้อหา “ประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” โดยผู้ต้องหารายนี้ ใช้ช่องทาง TikTok และ Facebook ชื่อ “เล็ก ทำฟันปลอม” ให้บริการรับทำฟันปลอมให้บุคคลทั่วไป โดยรับว่าเคยเป็นลูกจ้างทำฟันปลอมในแล็บทำฟันมาก่อน และอาศัยครูพักลักจำมาทำฟันปลอมหารายได้จากการตกงานในช่วงโควิดที่ผ่านมา โดยใช้วิธีนัดหมายไปให้บริการแก่ผู้สนใจนอกสถานที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ตามบริเวณจุดนัดต่าง ๆ เช่น ตลาด ริมทางข้างถนน โดยทำมาแล้วประมาณ 6 ปี
3. ร้าน PP ฟันปลอม ภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซอยกันตนา ต.บางใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จับกุมตัว นายทนงศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี ตรวจยึด แบบพิมพ์ฟัน, ฟันปลอม, ปูนทันตกรรม, อุปกรณ์การทำฟันอื่นรวม 15 รายการ จำนวน 103 ชิ้น ดำเนินคดีในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยผู้ต้องหารายนี้ รับว่าตนเองจบการศึกษาระดับชั้น ปวช. เคยมีความรู้การทำฟันปลอมเนื่องจากเคยทำงานอยู่ในห้องปฏิบัติการทำฟันของเอกชน ซึ่งหลังจากสถานการณ์โรคโควิดระบาด ห้องปฏิบัติการดังกล่าวปิดตัวลง จึงได้มาดำเนินกิจการทำ-ซ่อมฟันปลอมที่ร้านดังกล่าว ทำมาแล้วเป็นเวลา 2 ปี มีผู้มาใช้บริการวันละประมาณ 4-5 ราย
4. ร้าน “สมศักดิ์ เทคนิคทำฟัน” ในพื้นที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 จับกุมตัว นายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี พร้อมของกลาง อุปกรณ์ทำฟันปลอมรวม 13 รายการ จำนวน 179 ชิ้น ดำเนินคดีในข้อหา “ประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” โดยผู้ต้องหารายนี้เคยเป็นผู้ช่วยหมอฟันมาก่อนหน้านี้ และมาเปิดสถานที่รับทำฟันปลอมในลักษณะเป็นแผงลอย ย้ายสถานที่ไปเรื่อย ๆ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ รับทำฟันปลอมคิดค่าบริการราคาซี่ละ 200 บาท ทั้งปาก 3,000 บาท มีลูกค้าวันละประมาณ 3-4 ราย ทำมาแล้วประมาณ 3-4 ปี
รวมตรวจค้น 4 จุด จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดี โดยการกระทำความผิดฐานประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหนึ่งในผู้ต้องหารายนี้พนักงานสอบสวนส่งผู้ต้องหาฟ้องต่อศาล ศาลพิพากษาจำคุก 5 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม
1. พ.ร.บ. วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ. 2537 ฐาน “ประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. กรณีสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต จะมีความผิดตาม พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ท. ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้คือการส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ที่คิดจะสวมรอยเป็นบุคลากรทางการแพทย์ แสวงหาผลประโยชน์บนความเสี่ยงและอันตราย โดยทำการรักษาประชาชนอย่างไม่รับผิดชอบต่อสังคม การรับการรักษาจากหมอเถื่อนมีความเสี่ยงสูงมากที่จะนำไปสู่การติดเชื้อ การรักษาผิดพลาด หรือแม้กระทั่งความพิการถาวร ซึ่งเป็นความเสียหายที่ไม่อาจประเมินค่าได้ และสะท้อนให้เห็นว่า ความประมาทเพียงเล็กน้อยในการเลือกรับบริการ อาจเปลี่ยนชีวิตท่านไปตลอดกาล ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนก่อนเข้ารับบริการทันตกรรม ต้องตรวจสอบป้ายชื่อทันตแพทย์ผู้ให้บริการในคลินิก และตรวจสอบสถานะใบอนุญาตสถานพยาบาลที่รักษาได้ที่เว็บไซต์ทันตแพทยสภาทุกครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับตัวท่านเอง หากพบเบาะแสที่น่าสงสัย สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน บก.ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค




































