วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
หน้าแรกการเมืองสืบการเมือง “รบ.ล้มเหลวรอบด้าน” จ่อยุบสภาหนีตาย!

Related Posts

 “รบ.ล้มเหลวรอบด้าน” จ่อยุบสภาหนีตาย!

“…ไพศาล พืชมงคล” มองทะลุเกม วิเคราะห์ 5 ปมร้อน ชี้เป้าสัญญาณอันตราย! ตั้งแต่ “สงครามยืดเยื้อ” ชายแดนที่กำลังสูบเลือดประเทศไทยหมื่นล้าน สู่ “แผลเน่า” ใน สตช. ที่ถูกตีตราองค์กรโจร, “วาระแห่งชาติ” ปาหี่, และ “นิรโทษป่าไม้” ที่ขัด รธน. ทั้งหมดคือเกมที่กำลังบีบให้รัฐบาลเลือก… ระหว่าง “ยุบสภา” หรือเปิดทางให้ “นายกฯ คนนอก” ที่ชื่อ “เศรษฐพุฒิ”? นี่คือการแก้ปัญหาของรัฐบาล “อนุทิน” ที่ถูกมองว่า “ลิเกโรงใหญ่” ที่มีเดิมพันสูงกว่าที่คิด?…”

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงคุกรุ่นดุจภูเขาไฟรอวันปะทุ ล่าสุดทหารไทยสูญเสียขาจากกับระเบิดไปแล้วถึง 11 ขา แต่ท่าทีของรัฐบาลกลับเป็นการประกาศ “ฉีกปฏิญญาสันติภาพ” และยืนกราน “ไม่เจรจา” พร้อมประกาศ “ร้องเพลง My Way” เดินหน้าหาตลาดใหม่ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าคือการแก้ปัญหาที่ตรงจุดแล้วหรือไม่

ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลจากนักข่าวสายทหารระดับประเทศได้จุดชนวนคำถามถึงความคุ้มค่า เมื่อมีการเปิดเผยว่า งบประมาณถึง 10,000 ล้านบาท ถูกใช้ไปในปฏิบัติการชายแดน ตลอดระยะเวลาเพียง 2 เดือนกว่า

นี่คือตัวเลขที่น่าตกตะลึง และนำไปสู่การวิเคราะห์จาก นายไพศาล พืชมงคล ที่มองว่า ประเทศไทยกำลังติดกับดัก “สงครามยืดเยื้อ” (Protracted War) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ของฝ่ายที่เล็กกว่า (กัมพูชา) ในการใช้ทรัพยากรที่น้อยกว่า บั่นทอนมหาอำนาจที่ใหญ่กว่าให้ล่มสลายทางเศรษฐกิจ เฉกเช่นที่สหรัฐอเมริกาเคยพ่ายแพ้ในเวียดนามและอัฟกานิสถาน

คำถามคือ หาก 2 เดือนผลาญงบ 10,000 ล้าน ถ้าสงครามนี้ยืดเยื้อ 10 เดือน ประเทศไทยต้องจ่ายถึง 60,000 ล้านบาทหรือไม่?

เกมรบ “ไม่รู้เขา-ไม่รู้เรา” หรือจงใจ “เล่นลิเก” ?

การวิเคราะห์ยังชี้ให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพในการวางยุทธศาสตร์ “ไพศาล” ตั้งคำถามต่อหน่วยงานความมั่นคงว่า เรารู้กำลังรบของฝ่ายตรงข้ามชัดเจนเพียงใด? การที่กัมพูชามีกำลังพลหลักพัน แต่ไทยต้องตรึงกำลังนับหมื่นนาย หมายความว่ากำลังพลอีก 9,000 นาย กำลังสูญเสียงบประมาณไปโดยเปล่าประโยชน์หรือไม่?

ที่สำคัญกว่านั้น เป้าหมายสูงสุดของปฏิบัติการนี้คืออะไร?

ทุกวันนี้ เขมรยังคงส่งโดรนล้ำน่านฟ้าไทยวันละ 50-100 ลำ ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างชัดเจน แต่กองทัพไทยกลับไม่สามารถตอบโต้ได้ทันที เพราะติดขัดที่ “กระบวนการสั่งการ” ใช่หรือไม่?

ประเด็น “ใครสั่งหยุดยิง” ที่เคยเป็นปริศนาในอดีต บัดนี้กลับกลายเป็นการ “โยนความรับผิดชอบ” กันไปมา ระหว่าง รัฐบาล, สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกองทัพ ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าต้องรอ “มติ” หรือ “นโยบาย”

สภาพการณ์นี้ไม่ต่างอะไรกับการ “เล่นลิเก” บนความมั่นคงของชาติ และชีวิตของทหารชั้นผู้น้อย

แม้แต่มาตรการที่เคยประกาศกร้าว อย่างการตัดน้ำ ตัดไฟ หรือตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตต่อศูนย์สแกมเมอร์ในฝั่งกัมพูชา ก็ยังไม่เกิดขึ้นจริง นี่คือการ “กลัวขี้หดตดหาย” หรือมีผลประโยชน์ใดแอบแฝงอยู่เบื้องหลังการ “นิ่งเฉย” ครั้งนี้?

ไฟใน สตช. : “ฟ้องปิดปาก” กลบแผลเน่า “องค์กรอาชญากรรม”?

ในขณะที่ “ศึกนอกบ้าน” ยังอลหม่าน “ศึกในบ้าน” ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน การที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกมาแฉว่า “ตำรวจคือองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุด” ได้สั่นสะเทือนสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างรุนแรง

ท่าทีของ สตช. คือการ “เตรียมฟ้อง” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฐานทำลายองค์กร พร้อมกับ “โชว์ผลงาน” ยึดทรัพย์ สส. ชนนพัฒฐ์ 159 ล้านบาท ในคดีสแกมเมอร์

แต่นักวิเคราะห์มองว่า นี่คือการ “ฟ้องปิดปาก” (Gag Order) หรือไม่?

การพูดความจริงที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ แม้จะเจ็บปวด ย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย การที่คนในองค์กรลุกขึ้นมา “ชี้ขยะใต้พรม” กลับถูกตอบโต้ด้วยคดีความ แทนที่จะเป็นการตรวจสอบและปฏิรูป นี่คือการปกป้ององค์กร หรือกำลัง “ปกป้องอาชญากรรม” กันแน่?

ส่วนการ “ประกาศสงครามกับแก๊งสแกมเมอร์” ที่รัฐบาลยกให้เป็น “วาระแห่งชาติ” ผลงานที่ปรากฏใน 1 เดือน คือการ “ตั้งอนุกรรมการ” ซึ่งถูกมองว่าคือ “วิธีที่ไม่ต้องทำอะไร” เป็นเพียงการซื้อเวลา และหลอกประชาชนไปวันๆ ใช่หรือไม่?

ระเบิดเวลา “นิรโทษป่าไม้” ส่อขัด รธน.-ตั้ง “ศาลพิเศษ”

อีกหนึ่งความขัดแย้งที่รอวันปะทุ คือ ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมคดีป่าไม้ ที่ล่าสุด อัยการสูงสุด (อสส.) ได้ทำหนังสือทักท้วงถึง 9 ประเด็น ว่าอาจ “ขัดรัฐธรรมนูญ”

ประเด็นหลักคือการ “เลือกปฏิบัติ” อย่างชัดเจน ขัดต่อมาตรา 27 ที่ว่าบุคคลย่อมเสมอภาคกัน แต่ร่างกฎหมายนี้กลับจำแนกการนิรโทษกรรม โดยอิงจาก:

  1. ฐานะ: เลือกเฉพาะ “คนยากจน”
  2. อาชีพ: ไม่นิรโทษกรรมให้ “คนปลูกสวนยาง”
  3. ภูมิลำเนา: ไม่นิรโทษกรรมให้ “คนที่อพยพมาจากถิ่นอื่น”

ที่ร้ายแรงที่สุด คือการ “ตั้งคณะกรรมการ” ขึ้นมาชี้ขาดว่าใครจะได้รับการนิรโทษกรรม ซึ่ง อสส. ชี้ว่า นี่คือการ “ตั้งศาลพิเศษ” แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ

มีรายงานว่า “กฐิน” ถูกจองแล้ว โดยกลุ่มที่เตรียมยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัย หากยังดึงดันเดินหน้า อาจนำไปสู่การ “ถอดถอน” กรรมาธิการทั้ง 32 คน

เกมสุดท้าย: ยุบสภาหนี หรือรอ “นายกฯ พระราชทาน” ?

ท่ามกลางวิกฤตรอบด้าน เกมการเมืองในสภาก็กำลังเดินไปสู่จุดแตกหัก การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล คือหมากตาสุดท้ายของฝ่ายค้าน “ไพศาล” วิเคราะห์ว่า หากเป็นการอภิปรายทั่วไป (ไม่ลงมติ) ก็ไม่ต่างอะไรจากการ “ผายลม”

แต่หากพรรคเพื่อไทยตัดสินใจยื่น “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” (ลงมติ) เกมนี้จะขึ้นอยู่กับ “พรรคประชาชน” (ก้าวไกลเดิม) ว่าจะร่วมด้วยหรือไม่

  • หากพรรคประชาชนร่วม รัฐบาลสุ่มเสี่ยงต่อการแพ้โหวต และอาจต้อง “ชิงยุบสภา” ก่อนการอภิปราย
  • หากยุบสภาไม่ทัน และรัฐบาลถูกโหวตล้มกลางสภา เกมจะพลิกไปสู่การเลือกนายกฯ ใหม่

และนี่คือ “เกมการเมืองในเชิงลึก” ที่ถูกจับตามอง หากแคนดิเดตเดิม (ประวิตร, ประยุทธ์, จุรินทร์) ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ สถานการณ์อาจบีบให้เกิด “นายกฯ คนนอก” หรือที่เรียกว่า “นายกฯ พระราชทาน” ซึ่ง นายไพศาล พืชมงคล ได้ชี้เป้าไปที่ชื่อของ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

ประเทศไทยกำลังเดินอยู่บนเส้นด้าย ทั้งวิกฤตชายแดน วิกฤตองค์กรยุติธรรม และวิกฤตการเมือง ใครคือผู้กุมหมากตานี้ และเดิมพันที่แท้จริงของ “ลิเกโรงใหญ่” นี้ คืออะไรกันแน่?

#สืบจากข่าว รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts