วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมช็อกโกงรัฐ! CIB ล่าแก๊ง "Anti Tax Fraud" ยึดทรัพย์เครือข่ายภาษีปลอมพันล้าน!

Related Posts

ช็อกโกงรัฐ! CIB ล่าแก๊ง “Anti Tax Fraud” ยึดทรัพย์เครือข่ายภาษีปลอมพันล้าน!

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอศ. ร่วมกับกรมสรรพากร เปิดปฏิบัติการ “จบเกมกลโกงภาษี – Anti Tax Fraud Operation Phase 2” กวาดล้างเครือข่ายฉ้อโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม สร้างความเสียหายต่อรัฐกว่า 2,100 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท. ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต. พุฒิพงศ์ มุสิกูล รอง ผบช.ก., พล.ต.ต. ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ. วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ. นฤพนธ์ กรุณา ผกก.2 บก.ปอศ. และ พ.ต.ท. วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ.

ร่วมกับ กรมสรรพากร โดย น.ส. กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร, น.ส. สลักจิต พงษ์ศิริจันทร์ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกรรมทางการเงินการธนาคาร), นางเอื้อมเดือน สุขะวัลลิ ผู้อำนวยการกองตรวจสอบภาษีกลาง และ นายศุภชัย บำรุงศรี ผู้อำนวยการกองสืบสวนและคดี

ปฏิบัติการกวาดล้าง 4 จังหวัด
ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. จำนวน 72 นาย และเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร จำนวน 8 นาย รวม 80 นาย ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมรวม 11 จุด ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตาก, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดลำปาง และกรุงเทพมหานคร โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาได้ครบถ้วน 9 ราย (จับกุม 100%)

รายชื่อผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม:
1.น.ส. พิมพิลาสฯ อายุ 38 ปี (จับกุมได้ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ)
2.น.ส. จันทร์จิราฯ อายุ 33 ปี (จับกุมได้ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก)
3.น.ส. รัตนาฯ อายุ 34 ปี (จับกุมได้ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก)
4.นายต่อศักดิ์ฯ อายุ 41 ปี (จับกุมได้ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก)
5.น.ส. ศิโรรัตน์ฯ อายุ 30 ปี (จับกุมได้ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่)
6.น.ส. ณัฏฐกุลฯ อายุ 54 ปี (จับกุมได้ที่ อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง)
7.น.ส. ณิชานันท์ฯ อายุ 44 ปี (จับกุมได้ที่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก)
8.น.ส. พัชราภรณ์ฯ อายุ 46 ปี (จับกุมได้ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก)
9.นายวรากรฯ อายุ 54 ปี (จับกุมได้ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก)

นอกจากนี้ยังได้เข้าตรวจค้นสถานประกอบกิจการตามหมายค้น 2 จุด ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมตรวจยึดของกลางสำคัญ ได้แก่ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการยื่นภาษี จำนวน 30,000 ฉบับ และ คอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 7 เครื่อง

พฤติการณ์ฉ้อโกง: วงจรอุบาทว์ “VAT 0%”
ปฏิบัติการนี้เป็นการขยายผลต่อเนื่องจาก Operation Anti Tax Fraud Phase 1 (เมื่อ 24 มิถุนายน 2568) ที่มุ่งเป้าไปที่เครือข่ายของนายสำราญฯ ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า เครือข่ายนี้ได้ใช้เครือญาติและพนักงาน จดจัดตั้งบริษัท/ร้านค้าปลอม แล้วแสร้งทำการซื้อขายสินค้าระหว่างกันเป็นทอด ๆ โดยไม่มีการซื้อขายจริง เพื่อปั่นมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้น

ขั้นตอนสำคัญคือ การใช้บริษัทในเครือข่ายที่จดทะเบียนเพื่อ การส่งออก ทำการซื้อสินค้าทอดสุดท้ายที่ราคาสูงเกินจริง แล้วส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (ประเทศพม่า) เพื่อใช้สิทธิ ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มจากการส่งออก (VAT 0%) จากนั้นจึงขอ คืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) จากกรมสรรพากร โดยใช้ภาษีซื้อของมูลค่าสินค้าทอดสุดท้ายที่เป็นเท็จ ซึ่งสร้างความเสียหายในเฟส 1 กว่า 1,100 ล้านบาท

จากการขยายผลในเฟส 2 พบเครือข่ายร้านค้าและบริษัทอีก 7 แห่ง ที่ใช้แผนประทุษกรรมเดียวกัน และที่น่าสนใจคือ พบ 2 บริษัทนอกเครือข่ายที่มีการประกอบกิจการจริง แต่มีพฤติกรรม “ขายบิล” หรือออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริงให้กับบริษัทส่งออกของเครือข่าย โดยพบว่า บริษัทส่งออกดังกล่าวมีการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 เป็นจำนวนกว่า 60 ล้านบาท การประเมินภาษีจากการขยายผลเพิ่มเติมในครั้งนี้ พบมูลค่าความเสียหายอีกกว่า 1,000 ล้านบาท

ความเสียหายรวมทั้งเครือข่าย (Phase 1 + Phase 2) อยู่ที่ประมาณ 2,100 ล้านบาท

ข้อกล่าวหาและบทลงโทษ
ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิจะออกฯ ตามมาตรา 86/13”, “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม…” และ “เจตนานำใบกำกับภาษีปลอม…ไปใช้ในการเครดิตภาษี” อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (3) (6) (7) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี ต่อ 1 กรรมการกระทำความผิด

พล.ต.ต. พุฒิพงศ์ มุสิกูล รอง ผบช.ก. และ น.ส. กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร ได้ร่วมกันควบคุมการปฏิบัติการ ณ ห้องควบคุมสั่งการ RTCC (Real Time Crime Center) ตลอดระยะเวลาการเข้าตรวจค้นจับกุม เพื่อย้ำความมุ่งมั่นในการปราบปรามการฉ้อโกงภาษีที่กระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาบางรายให้การรับสารภาพ และบางรายให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts