วันเสาร์, พฤศจิกายน 15, 2025
หน้าแรกภูมิภาคทหารไทย นำคณะฑูต AOT สำรวจจุดเกิดเหตุทหารเหยียบทุ่นระเบิด ชี้ชัดเขมรลอบกัด-ตัดรั้ว ทำทหารไทยขาขาด

Related Posts

ทหารไทย นำคณะฑูต AOT สำรวจจุดเกิดเหตุทหารเหยียบทุ่นระเบิด ชี้ชัดเขมรลอบกัด-ตัดรั้ว ทำทหารไทยขาขาด

ศรีสะเกษ—กองทัพภาคที่ 2 เผยข้อเท็จจริงสุดช็อก! หลังลงนามปฏิญญาสันติภาพได้ไม่นาน ทหารกัมพูชาลอบตัดรั้วและวางทุ่นระเบิดใหม่ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ ส่งผลให้ทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา การกระทำนี้ชี้ชัดว่าเป็นการ “ลอบกัด” และละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ล่าสุด (14 พ.ย. 2568) คณะทูตทหารจาก AOT, TMAC และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่สำรวจจุดเกิดเหตุจริง เพื่อยืนยันสถานการณ์การละเมิดข้อตกลงชายแดนที่เกิดขึ้น

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้นำคณะทูตทหารจาก AOT (ASEAN Our Team), TMAC และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจุดที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

คณะทูต AOT ที่เดินทางมาครั้งนี้นำโดย มิสเตอร์เจฟเฟนี่ ทูตทหารจากมาเลเซีย, มิสเตอร์เตอเรนซ์ ทูตทหารประเทศสิงคโปร์, และมิสเตอร์นาริน ทูตทหารประเทศบรูไน พร้อมด้วยตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ

ก่อนเข้าพื้นที่ ทหารไทยได้มีการอธิบายลำดับเหตุการณ์และสถานการณ์อย่างละเอียดต่อคณะทูตผ่านล่ามแปลภาษา โดยชี้ให้เห็นภูมิประเทศโดยคร่าว และเน้นย้ำข้อเท็จจริงสำคัญว่า พื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่อยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยมีป้ายแจ้งเตือนชัดเจน แต่เมื่อเกิดข้อขัดแย้ง ทหารไทยจึงจำเป็นต้องเข้าประจำการในพื้นที่

จุดประสงค์ของการนำคณะทูตเข้าตรวจสอบครั้งนี้คือ การเปิดเผยความจริงให้เห็นชัดเจนว่า มีการละเมิดข้อตกลงปฏิญญาสันติภาพที่เพิ่งลงนามไปเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 อย่างโจ่งแจ้งที่สุด แม้เพิ่งมีการลงนาม แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าฝ่ายกัมพูชาได้นำทุ่นระเบิดมาวางซ้ำในพื้นที่ที่ทหารไทยได้เคลียร์ไปก่อนหน้านี้แล้ว

ทหารไทยได้ใช้เส้นทางลาดตระเวนบริเวณห้วยตามาเรียนี้เป็นประจำทุกวันโดยไม่พบความผิดปกติใด ๆ กระทั่งวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่พบร่องรอยการตัดและรื้อลวดหนามออกไปอย่างชัดเจน ทหารจึงทำการลาดตระเวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่ทหารไทยจะเหยียบเข้ากับทุ่นระเบิดที่ถูกวางไว้ใหม่

หลังการรับฟังคำชี้แจง คณะ AOT ได้เดินเท้าเข้าสำรวจจุดเกิดเหตุจริง ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปประมาณ 500 เมตร ใช้เวลาสำรวจนานกว่า 1 ชั่วโมง โดยภาพรวมจากการสังเกตการณ์ คณะทูต AOT มีท่าทีเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี เนื่องจากส่วนใหญ่ต่างก็เป็นทหารอาชีพที่เข้าใจและประเมินสถานการณ์ทางทหารได้อย่างรวดเร็ว

ที่สำคัญที่สุด คือ ทหารไทยได้ยืนยันข้อมูลอย่างหนักแน่นในเรื่องของประเภททุ่นระเบิดที่ตรวจพบในหลายพื้นที่ ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้ไม่เคยอยู่ในรายการที่ใช้ในการสงครามตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการชี้ชัดอย่างปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุ่นระเบิดถูกนำมาวางใหม่ และเป็นการใช้วิธี “ลอบกัด” ด้วยการตัดรั้ว รอจังหวะให้ทหารไทยเดินเข้าไปในพื้นที่เพื่อเหยียบกับทุ่นระเบิดที่ซ่อนไว้

ทีมข่าว จังหวัดศรีสะเกษ รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts