จับแล้ว! อดีตพลทหารแต่งหญิงบุกจี้เซเว่นฯกลางดึก ตำรวจบก.น.4 ตามรวบคาคอนโด – รับสารภาพตกงานไม่มีเงินใช้

ตำรวจสืบสวนบก.น.4 สน.หัวหมาก แกะรอยจากกล้องวงจรปิด รวบอดีตพลทหารวัย 23 ปี หลังวางแผนปลอมตัวเป็นหญิง ใช้วิกผมพรางตัวบุกจี้ร้านเซเว่นฯ ซอยพระรามเก้า 57 กวาดเงินสดหมื่นบาทหลบหนี สุดท้ายหนีไม่รอด ถูกจับคาคอนโด รับสารภาพสิ้น ตกงาน-ไม่มีเงินใช้หนี้

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น., พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.4, พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม รอง ผบก.น.4, พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.บก.น.4 และ พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.หัวหมาก
นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวนบก.น.4 และ สน.หัวหมาก เข้าจับกุม นายธนธรณ์ จุลฬา อายุ 23 ปี อดีตพลทหาร พร้อมของกลาง ได้แก่

• วิกผม 1 อัน
• รถยนต์โตโยต้า ยาริส เอทีฟ สีเทา ทะเบียน 9 กฬ 8115 กทม.
• เสื้อยืดสีดำ 1 ตัว
• กางเกงขาสั้นสีดำ 1 ตัว
• รองเท้าแตะ 1 คู่
• รองเท้าผ้าใบยี่ห้อ Reebok 1 คู่

จับกุมได้ที่คอนโดลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 26 อาคาร C ห้องเลขที่ 59/174 ชั้น 8 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เมื่อเวลา 21.20 น. วันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 01.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายแต่งกายคล้ายหญิง ใช้อาวุธมีดจี้พนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ภายในซอยพระรามเก้า 57 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ได้เงินสดไปประมาณ 10,000 บาท ก่อนขับรถยนต์หลบหนี

ชุดสืบสวนบก.น.4 และ สน.หัวหมาก ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบรถต้องสงสัยยี่ห้อโตโยต้า ยาริส เอทีฟ สีเทา หมายเลขทะเบียน 9 กฬ 8115 กทม. ใช้เป็นพาหนะหลบหนี ก่อนตามแกะรอยจนทราบว่าคนร้ายพักอยู่ที่คอนโดลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 26 จึงรวบรวมหลักฐานขอหมายค้นและวางแผนเข้าจับกุม

จากการสอบสวน นายธนธรณ์ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยวางแผนล่วงหน้า ใช้วิกผมแต่งกายคล้ายผู้หญิงเพื่อหลบตากล้องวงจรปิด ก่อนลงมือจี้ร้านสะดวกซื้อ พร้อมพูดโกหกพนักงานว่า “ทำเพราะลูกป่วย” เพื่อเบี่ยงเบนความสงสาร ทั้งที่ความจริงไม่มีบุตร

ผู้ต้องหายังให้การว่า ก่อนก่อเหตุเคยใช้บริการร้านดังกล่าวมาก่อน จึงรู้จุดกล้องและทางหนีทีไล่ ขับรถมาดูลาดเลาในตอนแรก จากนั้นจอดรถไว้ใกล้จุดเกิดเหตุ เดินเข้ามาเปลี่ยนชุดแต่งหญิง แล้วใช้มีดจี้พนักงาน กวาดเงินสดใส่ถุง ก่อนเปลี่ยนชุดกลับและขับรถหลบหนี

ผู้ต้องหายอมรับว่า ลงมือก่อเหตุเพราะตกงาน ไม่มีรายได้ ต้องการเงินไปใช้หนี้และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หลังปลดประจำการจากทหารได้ไม่นาน

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” พร้อมควบคุมตัวและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต้องการให้ปรับแนวข่าวเป็น สั้นเข้มแบบข่าวทีวี, เชิงสังคม, หรือ ข่าวอาชญากรรมสไตล์สำนักข่าวหลัก (ไทยรัฐ/เดลินิวส์/ข่าวสด) ไหมครับ