โรงรับจำนำเทศบาลเมืองศรีราชา จ.ชลบุรี เจอสถานการณ์ขาดสภาพคล่องหลังราคาทองผันผวน ประชาชนแห่มาขอเพิ่มวงเงินจำนำจนเงินไม่พอจ่าย ต้องขออนุมัติยืมเงินสะสมจากเทศบาล 50 ล้านบาท เพื่อให้บริการประชาชนต่อเนื่อง เผยของจำนำหลากหลาย ตั้งแต่ทองคำจนถึง “ครก–สากหิน” สะท้อนเศรษฐกิจรากหญ้าที่กำลังอึดอัดสุดขีด
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบการให้บริการของ สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองศรีราชา พบประชาชนต่อคิวแน่น เพื่อมาจำนำทรัพย์สินแลกเงินสด โดย นายกิตติพัฒน์ จันทร์กล่ำ ผู้จัดการสถานธนานุบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงรับจำนำอยู่ในภาวะ “เงินขาดมือ” จากราคาทองคำที่ผันผวนอย่างหนัก
ล่าสุด ทองคำแท่งแตะบาทละ 61,850 บาท และทองรูปพรรณอยู่ที่ 62,650 บาท ทำให้ลูกค้าจำนวนมากกลับมาขอ “เพิ่มวงเงินจำนำ” ตามราคาทองในตลาด ซึ่งส่งผลให้เงินหมุนเวียนภายในสถานธนานุบาลร่อยหรอลงอย่างรวดเร็ว
เพื่อไม่ให้การบริการหยุดชะงัก จึงได้ ขอยืมเงินสะสมของเทศบาลเมืองศรีราชา จำนวน 50 ล้านบาท มาเสริมสภาพคล่อง โดยได้รับการอนุมัติจากสภาเทศบาลแล้ว
นายกิตติพัฒน์ กล่าวว่า ช่วงนี้ประชาชนเข้ามาใช้บริการหนาแน่นเป็นพิเศษ โดยทรัพย์สินที่นำมาจำนำมีตั้งแต่ ทองคำ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงของใช้ในครัวเรือน เช่น หม้อหุงข้าว เตารีด กีตาร์ เครื่องทำน้ำอุ่น และที่น่าตกใจคือมีคน นำครก–สากหิน มาจำนำในราคาตั้งแต่ 300–500 บาท แล้วแต่ขนาด
“เราเข้าใจดีว่าคนที่เดินเข้ามาที่นี่คือคนที่กำลังลำบาก ตามนโยบายของผู้บริหารเทศบาล เราต้องช่วยทุกคนที่เดือดร้อน ไม่ว่าจะนำอะไรมาก็ตาม ถ้ามีมูลค่า เรายินดีรับไว้” ผู้จัดการสถานธนานุบาลกล่าว
นายกิตติพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ราคาทองที่พุ่งสูงทำให้ผู้ที่เคยจำนำไว้ในช่วงราคาทองบาทละ 46,000 บาท กลับมาขอเพิ่มวงเงินอีกหลายหมื่นบาท ทำให้เงินสำรองลดลงรวดเร็ว แต่หลังจากได้งบ 50 ล้านบาทจากเทศบาล จะสามารถรองรับความต้องการของประชาชนได้มากขึ้น
“ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เราต้องยึดหลักช่วยประชาชนก่อนเสมอ ใครเดือดร้อนมาหาเราได้ จำนำได้ทุกอย่าง ขอแค่ให้มีเงินหมุนในมือกลับไปใช้ชีวิตต่อได้”
— นายกิตติพัฒน์ จันทร์กล่ำ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเมืองศรีราชา











