
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ด่วน เรียกร้องรัฐบาลเร่งสำรวจ–เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้โดยเฉพาะพื้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังสถานการณ์รุนแรงกระทบวงกว้าง ชี้เป็นสัญญาณเตือนชัดถึงปัญหาการบริหารจัดการน้ำและการรับมือภัยพิบัติของรัฐที่ยังไร้ประสิทธิภาพ พร้อมเสนอให้ “ถอดบทเรียน–จัดทำแผนรับมือภัยธรรมชาติอย่างยั่งยืน” เพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประชาชนทุกกลุ่ม
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออก แถลงการณ์เรื่อง ขอให้รัฐบาลเร่งสำรวจและเยียวยาความเสียหายจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ และถอดบทเรียนจัดทำแผนรับมือภัยพิบัติ หลังหลายจังหวัดประสบอุทกภัยรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ได้รับผลกระทบหนักจากฝนตกต่อเนื่องจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
กสม. แสดงความเสียใจต่อผู้ประสบภัยทุกครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ทรัพย์สิน และขวัญกำลังใจ พร้อมระบุว่า วิกฤตครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง “ความล้มเหลวของระบบบริหารจัดการน้ำ” และ “การเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ” ของรัฐ ที่ยังไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริงในยุคการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งกระทบโดยตรงต่อ สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ทั้งสิทธิในชีวิต ความปลอดภัย ที่อยู่อาศัย และมาตรฐานการครองชีพที่เพียงพอ
ในส่วนของแนวทาง เร่งด่วน
กสม. ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้
- เร่งสำรวจและออกหนังสือรับรองผู้ประสบภัย เพื่อให้สามารถเข้าถึงการเยียวยาได้อย่างรวดเร็ว ครอบคลุม และเป็นธรรม
- จัดสรรงบประมาณและทรัพยากรจำเป็น สนับสนุนอาสาสมัครและองค์กรท้องถิ่นในการฟื้นฟูบ้านเรือน ถนน ระบบสาธารณูปโภค และแหล่งน้ำสะอาด
- เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์และมาตรการช่วยเหลืออย่างโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
ส่วนในระยะ ยาว
กสม. เสนอให้รัฐบาล ถอดบทเรียนจากเหตุอุทกภัยครั้งนี้ เพื่อพัฒนาแผนป้องกันภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้น
- การสร้างระบบเตือนภัยและการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เข้าถึงได้สำหรับทุกกลุ่ม
- การเพิ่มศักยภาพของชุมชนท้องถิ่นในการรับมือภัยธรรมชาติ
- การบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับชาติ จังหวัด ท้องถิ่น และชุมชน ภายใต้หลัก “การมีส่วนร่วมของประชาชน”
กสม. ย้ำว่า จะจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเรื่อง “การบริหารจัดการน้ำและภัยพิบัติท่ามกลางวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” เสนอไปยังรัฐบาลโดยเร็ว เพื่อให้การดำเนินงานในอนาคตลดความเสี่ยงและผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชนในทุกมิติ พร้อมทิ้งท้ายว่า
“รัฐต้องเร่งลงมือจริง ไม่ใช่เพียงแถลงความห่วงใย เพราะทุกชีวิตที่สูญเสีย คือสิทธิมนุษยชนที่ไม่ควรถูกละเลย”





