“…..วันนี้ คนท้้งโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์หลายพันปี อารยธรรมยุคใหม่ที่จะครอบคลุมไปทั่วทั้งโลกกำลังปรากฏตัวขึ้น โดยมีวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีล้ำยุคเป็นตัวบุกเบิก ประเทศจีนที่ได้เริ่มพัฒนาประเทศตั้งแต่กลางศตวรรษที่20 เกิดการตั้งไข่ได้สำเร็จทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี โดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ระดับหัวกะทิชาวจีนที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษเป็นต้น ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นจีนและผู้เชี่ยวชาญจากสหภาพโซเวียต ได้วางรากฐานการพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแขนงต่างๆได้อย่างครอบคลุม สามารถเป็นฐานรองรับการพัฒนาต่อยอดในระยะต่อมาได้เป็นอย่างดี จีนได้นำเอาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมาชี้นำการพัฒนาประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะคือการทุ่มทรัพยากรพัฒนาการศึกษา การวิจัยและพัฒนาเป็นอันดับแรก ณ วันนี้จีนได้ก้าวมายืนอยู่หัวแถวโลกแล้ว ปัจจุบันนี้จีนเป็นผู้นำทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีล้ำสมัยไปแล้วร่วม 90% ของโลก(68จาก74รายการ) ทั้งๆที่เมื่อราว10ปีที่แล้ว ยังเป็นผู้ไล่ตามหลังเป็นส่วนใหญ่ เมื่อทำได้ดีกว่า ก็ย่อมเจริญก้าวหน้ากว่า เป็นธรรมดา…”
จับทางจีน正视中国
สันติ ตั้งรพีพากร陈俊泰
กุญแจไขประตูอารยธรรมยุคใหม่ 打开未来文明大门的钥匙
ณ วันนี้ คนท้้งโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์หลายพันปี
อารยธรรมยุคใหม่ที่จะครอบคลุมไปทั่วทั้งโลกกำลังปรากฏตัวขึ้น โดยมีวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีล้ำยุคเป็นตัวบุกเบิก
ไล่มาตั้งแต่คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต ดาวเทียม พันธุวิศวกรรม ที่นำร่องมาเรื่อยๆ จนถึงปัญญาประดิษฐ์ อินเตอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่งและอินเตอร์เน็ตแห่งปัญญา ควอนตัมคอมพิวเตอร์และการสื่อสารควอนตัม ตลอดจนการเชื่อมต่อของสมองกับอุปกรณ์เอไอ ที่จะช่วยยกระดับการทำงานของสมองให้สูงขึ้นไปกว่าที่ธรรมชาติให้มา เป็นต้น
โดยรูปการณ์ของการขับเคลื่อนของกระแสนำการเปลี่ยนแปลงโลกครั้งใหญ่นี้ เริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และสหภาพโซเวียตภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แม้ต่อมาสหภาพโซเวียตได้ล่มสลายลง การพัฒนาต่อยอดทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของกลุ่มประเทศทุนนิยมตะวันตกก็ยังคงดำเนินต่อไป
ประเทศจีนที่ได้เริ่มพัฒนาประเทศตั้งแต่กลางศตวรรษที่20 เกิดการตั้งไข่ได้สำเร็จทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี โดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ระดับหัวกะทิชาวจีนที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษเป็นต้น ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นจีนและผู้เชี่ยวชาญจากสหภาพโซเวียต ได้วางรากฐานการพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแขนงต่างๆได้อย่างครอบคลุม สามารถเป็นฐานรองรับการพัฒนาต่อยอดในระยะต่อมาได้เป็นอย่างดี
บนพื้นฐานของการพัฒนาอุตสาหกรรมหนักในระยะเริ่มต้นของแผนพัฒนา 5 ปี และการพัฒนาอุตสาหกรรมเบาภายหลังการเปิดประเทศ ประเทศจีนได้นำเอาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมาชี้นำการพัฒนาประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะคือการทุ่มทรัพยากรพัฒนาการศึกษา การวิจัยและพัฒนาเป็นอันดับแรก สามารถผลิตบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ได้มากที่สุดในโลก
บุคลากรล้ำค่าเหล่านี้ ได้กลายเป็นกองทัพใหญ่สนับสนุนการพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของจีนยุคใหม่ ภายใต้แผนพัฒนาประเทศของพรรคและรัฐบาลจีน ให้สามารถดำเนินมาได้อย่างรวดเร็วและอย่างเป็นระบบ ยกระดับความก้าวหน้าโดยรวมได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทำให้จีนค่อยๆไล่ทันและแซงโลกตะวันตกได้แล้วเป็นส่วนใหญ่ในทุกวันนี้
ลองกางแผนผังเปรียบเทียบดูกันว่า ณ วันนี้จีนได้ก้าวมายืนอยู่หัวแถวโลกแล้วทางด้านใดบ้าง
ที่โดดเด่นเป็นที่ยอมรับของชาวโลกก็คือเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูง หุ่นยนต์อัจฉริยะ ระบบการสื่อสาร5-6 G การพัฒนาโมเดลใหญ่เอไอแบบเปิด เช่นDeepSeek การสำรวจอวกาศ โดยเฉพาะคือการสำรวจดวงจันทร์และแผนส่งคนไปลงดวงจันทร์ สร้างฐานวิจัยบนดวงจันทร์ โครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์เทียม การสื่อสารควอนตัมและคอมพิวเตอร์ควอนตัม ตลอดจนอุปกรณ์การผลิตชิปชั้นสูงด้วยแสงเลเซอร์ไวโอเล็ต ฯลฯ
จากการประมวลของสถาบันวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของชาติตะวันตกเองก็ยอมรับแล้วว่า ปัจจุบันนี้จีนเป็นผู้นำทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีล้ำสมัยไปแล้วร่วม 90% ของโลก(68จาก74รายการ) ทั้งๆที่เมื่อราว10ปีที่แล้ว ยังเป็นผู้ไล่ตามหลังเป็นส่วนใหญ่
จากภาพที่ผู้เขียนลำดับมาข้างต้น ย่อมบอกเราว่า การขับเคลื่อนของอารยธรรมมนุษย์แท้จริงแล้วมิได้เป็นไปเพราะความต้องการของใครโดยเฉพาะ หากแต่ดำเนินไปด้วยแรงผลักดันของพลังการผลิต ซึ่งปัจจุบันนี้ก็คือวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีล้ำยุค
การที่ประเทศจีนพัฒนาประเทศชาติได้เร็ว ก็ด้วยคณะผู้นำเข้าใจในพลังอำนาจของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยียุคใหม่ ทุ่มเทสรรพกำลังลงไปที่การสร้างบุคลากรและจัดระเบียบการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับความเรียกร้องต้องการของยุคสมัยในทุกขั้นตอน และอย่างทันกาล
เมื่อทำได้ดีกว่า ก็ย่อมเจริญก้าวหน้ากว่า เป็นธรรมดา!
ไขคำจีน
钥匙 เอี้ยวสือ กุญแจ



