“…ร.ต.อ.วีรยุทธ ร้องหาญแก้ว รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในร้าน เอ้กตี้ส์ บาร์แอนด์บิสโทร ซอยพุทธบูชา 36 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานดับเพลิง และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที…”
[inline_related_posts title=”คุณอาจสนใจเรื่องเหล่านี้” title_align=”left” style=”list” number=”4″ align=”none” ids=”” by=”categories” orderby=”rand” order=”DESC” hide_thumb=”no” thumb_right=”no” views=”no” date=”yes” grid_columns=”2″ post_type=”” tax=””]
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบเเสงเพลิงและกลุ่มควันเป็นจำนวนมากภายในร้าน เอ้กตี้ส์ บาร์แอนด์บิสโทร เลขที่ 2/10 ซอย พุทธบูชา 36 แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะอาคารบ้านเดี่ยวเป็นปูน 2 ชั้น แสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากด้านในร้านดังกล่าวเป็นจำนวนมากในบริเวณชั้นล่างของตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครจึงเร่งรัดจัดวางหัวจ่ายฉีดน้ำดับเพลิงอย่างเร่งด่วนเพื่อระงับเหตุการณ์ดังกล่าวทันที ใช้เวลา 20 นาที เพลิงจึงสงบแสงเพลิงหมดไปเหลือเพียงแต่กลุ่มควัน อาสาสมัครจึงทำการจัดอุปกรณ์เร่งระบายควันออกจากตัวอาคาร
เมื่อตรวจสอบจากภายในอาคารดังกล่าวพบความเสียหายบริเวณห้องโถงกลางชั้นล่างทั้งหมด แล้วยังตรวจสอบพบแกลลอนสีเขียวบรรจุน้ำมัน 6 ลิตร ตกอยู่บริเวณใกล้เคียงจุดที่เกิดเหตุแล้วยังพบกับไฟเเช็คสีเขียวตกอยู่ข้างๆอีกเช่นกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุทำตกเอาไว้ ส่วนเบื้องต้นจากการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดล้อมพื้นที่บริเวณโดยรอบเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านในอาคารดังกล่าวเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย
จากการสอบถาม น.ส.ฉวีวรรณ ทัดไทยสง อายุ 42 ปี เป็นผู้จัดการร้าน บอกว่า ร้านปิดเที่ยงคืน ตนกลับออกจากร้านไปตอนประมาณตี 2 เกือบตี 3 เที่ยงคืน ปกติตนจะนอนพักที่ร้าน แต่วันนี้ตนมีงานจะไปวัดแถวพระราม 3 เลยกลับบ้านมา แล้วมีคนโทรมาบอกตน ตนก็รีบกลับเข้ามาที่ร้าน แต่จะโทรบอกแม่ครัวให้มาดูก่อน เพราะเค้าอยู่ใกล้กว่า พอมาถึงก็เห็นว่ากู้ภัยดับเพลิงมาดับแล้ว ถามจากแม่ครัวก็บอกว่า ไหม้ที่เก้าอี้โซฟา แต่มีกระจกด้านข้างแตกด้วย
พนักงานเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนหน้านี้มีผู้ชายคนนึง ลักษณะเมามาจากที่ไหนไม่รู้มานั่งโต๊ะด้านนอกร้าน พนักงานก็เข้าไปถามว่าจะรับเครื่องดื่มอะไรมั้ย แต่เค้าก็ไม่สั่งอะไรเลย มานั่งตามประสาคนเมา แต่มีลูกค้าโต๊ะอื่นรำคาญ จึงได้เชิญเค้าออกไป แต่ก็ไม่ออก จนร้านปิด เค้าก็เดินออกไป สักพักเค้าก็เดินกลับเข้ามาอีก จนตนจะกลับออกจากร้านแล้ว ก็เห็นเดินจะเข้ามาอีก แฟนตนจึงยื้อยุดเพื่อไม่ให้เค้าเข้ามาในร้านอีก แต่ด้วยที่เค้าเมา จึงเซล้มลง แล้วเค้าก็ลุกเดินไป ตนจึงยืนดูสักพักนึงว่าไปจริงแล้ว สังเกตเห็นกระเป๋าตังตกอยู่บริเวณที่เค้าล้ม จึงหยิบขึ้นมาเปิดดูแล้วก็เลยถ่ายบัตรประชาชนถ่ายกันไว้ก่อน ตนเอะใจยังไงไม่รู้จึงคิดถ่ายไว้ แล้วก็โยนวางไว้ตรงต้นไม้หลังป้าย เพื่อใครมาเอาไป สักพักเค้าก็เดินย้อนกลับมาเก็บคืนไปจริงๆ ตนจึงกลับออกไปแถวพระราม 3
พอเกิดเรื่องตนจึงสงสัยเลยลำดับเหตุการณ์มาปะติปะต่อกันแล้วสงสัยว่าน่าจะสาเหตุนี้หรือป่าว เป็นไปได้มั้ยที่เค้าอาจจะโมโห อันนี้ตนก็ได้แค่สงสัยเท่านั้น
และทางด้าน น.ส.อวิภาวดี ศรีจันทึก อายุ 21 ปี พนักงานส่งของร้านข้างๆ บอกว่า ตนมาส่งของกับแฟน ประมาณตี 3 เกือบตี 4 พอมาถึงก็ลงรถไป ได้กลิ่นเหม็นไหม้จึงเดินมองดูรอบๆ ใกล้ๆ แต่ก็ไม่เห็นจึงขึ้นไปนั่งรอบนรถ แล้วแฟนตนก็ลงของ จึงมองเห็นไฟไหม้ในร้าน เลยมาเรียกตนให้ลงไปดู ก็เห็นไฟไหม้จากข้างในร้าน และเดินดูรอบๆร้านก็เห็นตรงข้างร้านมีประตูกระจกแตกอยู่แล้วใต้ต้นไม้มีถังน้ำมันกำลังติดไฟอยู่ ตนจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เพราะปกติจะมีคนนอนในร้าน ตนกลัวจะเป็นอันตรายจึงรีบโทรแจ้งให้มาช่วยเหลือ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดภายในที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้ยังสรุปสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งถึงจะสรุปได้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรกันแน่ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป