“…หนุ่มแมสเซนเจอร์ดวงซวยขับจยย.หันไปโวยรถคันหลังไม่ทันดูเสียหลักชนเสาไฟดับอนาถ ฝั่งคู่กรณียืนสมเพช มีภาพวงจรปิด…”
[inline_related_posts title=”คุณอาจสนใจเรื่องเหล่านี้” title_align=”left” style=”list” number=”4″ align=”none” ids=”” by=”categories” orderby=”rand” order=”DESC” hide_thumb=”no” thumb_right=”no” views=”no” date=”yes” grid_columns=”2″ post_type=”” tax=””]
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 22 มิ.ย. ร.ต.อ.นราศักดิ์ วงค์โปทา รอง สว.(สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ
รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิต ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราชและอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นถนน2เลนอยู่บนถนนประชาอุทิศฝั่งขาเข้า ใกล้เคียงซอย49 ใกล้โค้งแยกนาหลวง ตรวจสอบเลนซ้ายสุดพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นแอร์ล็อก 155 ซีซี สีเขียวดำ ทะเบียน9กร9730กรุงเทพมหานคร สภาพชนกับเสาไฟฟ้า พบรอยขูดยาวบนขอบฟุตบาท ใกล้กันพบศพเจ้าของรถ ทราบชื่อคือนาย ปิยพงศ์ สุวรส อายุ47ปี อาชีพแมสเซนเจอร์เป็นผู้ขับขี่ สภาพนอนหงายหายใจรวยริน สวมเสื้อโปโลสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ มีบาดแผลคิ้วข้างซ้ายแตกยุบถึงกระโหลก แพทย์เร่งทำCPR ปั๊มหัวใจก่อนจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตเนื่องจากหัวฟาดกับเสาไฟฟ้าเนื่องจากพบคราบเลือดและรอยบิ่นเศษตัวยึดโทรศัพท์ จยย.หักตกอยู่ที่บริเวณเสาไฟฟ้า
สอบสวนนาย วีรพัทธิ์ กาวิละ อายุ 58 ปี(พลเมืองดีผู้เห็นเหตุการณ์) ให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนขับรถตามหลังรถผู้ตาย เห็นว่าผู้ตายขับขี่มากับรถจยย.คู่กรณีอีกคันได้มีการทะเลาะกันมาก่อน โดยทางฝั่งผู้ตายขับมาเลนซ้ายมีการด่าทอกับรถของคู่กรณีที่ขับอยู่เลนขวา จากนั้นทางฝั่งผู้ตายได้หันหน้าไปโต้เถียงกับคู่กรณีก่อนที่รถจะเสียหลักพุ่งชนกับขอบฟุตบาททำให้กระเด็นไปฟาดกับเสาไฟฟ้าจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
นอกจากนี้พลเมืองดีสามารถบันทึกคลิปขณะเกิดเหตุโดยพบว่าคู่กรณี เป็นชายวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีดำ ไม่ทราบเลขทะเบียน หลังจากผู้ตายเสียหลักล้ม ทางชายวัยรุ่นคู่กรณีลงมาจากรถยืนต่อว่าผู้ตายที่นอนอยู่กลางถนนว่า “ทางผู้ตายขับมาหาเรื่องตนและบอกว่าตนขับรถปาดหน้า” และพูดด้วยว่า “โง่ แก่แล้วไม่อยู่ส่วนแก่” โดยไม่ให้การช่วยเหลือผู้เสียชีวิตเพียงแค่ยืนดูอย่างน่าอนาถ
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะจะทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดเพื่อพิจารณาเรียกคู่กรณีมาสอบสวนเพิ่มเติมและนำร่างผู้ตายส่งให้แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราชทำการชันสูตรก่อนจะมอบให้ญาตินำไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป