วันอังคาร, ตุลาคม 1, 2024
หน้าแรกภูมิภาคอำนาจรัฐ “หมดน้ำยา”แก๊งเงินกู้ “โหด” ดอกเบี้ย 60%4 แม่ลูก”หนีตาย”นอนริมถนน

Related Posts

อำนาจรัฐ “หมดน้ำยา”
แก๊งเงินกู้ “โหด” ดอกเบี้ย 60%
4 แม่ลูก”หนีตาย”นอนริมถนน

“…สุดรันทด 4 พ่อแม่ลูก ถูกเซลล์ปล่อยเงินกู้ดอกโหด ร้อยละ 60 ตามล่า! หลังค้างส่งดอกเพียง 1 สัปดาห์ หอบลูก 2 คนหนีตายไม่ได้ไปโรงเรียน นอนข้างถนน หมดหนทางจะชวนกันไปกระโดดน้ำตาย 4 คน พ่อ แม่ ลูก เปิดใจเล่าว่ากลัวมากเพราะก่อนหน้านี้มีเพื่อนบ้านเคยถูกเซลล์ปล่อยเงินกู้กลุ่มนี้รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บปางตายมาแล้ว แจ้งตำรวจไปก็ไม่มีใครช่วยอะไรได้ ….”

 

[inline_related_posts title=”คุณอาจสนใจเรื่องเหล่านี้” title_align=”left” style=”list” number=”4″ align=”none” ids=”” by=”categories” orderby=”rand” order=”DESC” hide_thumb=”no” thumb_right=”no” views=”no” date=”yes” grid_columns=”2″ post_type=”” tax=””]

เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน เดินทางไปยังริมถนนพระยาสุเรนทร์ ซอย 1 แขวง – เขตคันนายาว กทม. หลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก นางบุญตรี ชาวกล้า อายุ 45 ปี ชาว จ.อุดรธานี ว่าขอให้ช่วยรับลูกชายและลูกสาวไปช่วยเลี้ยงดูที เนื่องจากตนเองและสามีตั้งใจจะไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตายในวันรุ่งขึ้น

หลังทราบเรื่อง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด จึงรีบเดินทางมายังจุดที่ได้รับแจ้งทันที เมื่อมาถึงได้พบกับ นางบุญตรี นอนกอดลูกสาวร้องไห้ อยู่ภายในมุ้งเล็กๆท้ายรถสองแถว โดยมีสามี และ ลูกชาย นอนอยู่บนเบาะรถท้ายรถสองแถว

นางบุญตรี กล่าวว่า ตนเป็นชาว จ.อุดรธานี เข้ามาทำงานที่กรุงเทพ เป็นช่างเย็บผ้า ส่วนสามีมาเช่ารถ 2 แถววิ่งรับส่งผู้โดยสารย่านมีนบุรี โดยก่อนเกิดวิกฤตโควิด ตนและสามีไม่เคยมีหนี้สินแต่อย่างใด ทำงานส่งลูกทั้ง 2 คนเรียนหนังสือได้อย่างปกติ ต่อมาเกิดวิกฤตโควิด ออเดอร์เย็บผ้าถูกยกเลิก จากที่เคยมีรายได้เดือนละ 20,000 บาท เหลือรายได้เพียง 3,000 – 5,000 บาท / เดือน ทำให้รายได้ไม่พอกับรายจ่าย จึงต้องนำเงินเก็บออกมาใช้จ่ายในครอบครัวจนหมด

เมื่อเงินหมดจึงเริ่มเข้าสู่วงจรการขอกู้เงินรายวัน โดยครั้งแรกขอกู้มา 10,000 บาท เพื่อมาจ่ายค่าบ้านเช่า โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 60 ต่อเดือน (จ่ายดอกวันละ 200 บาททุกวันจนกว่าจะมีเงินต้นมาคืน) กระทั้งบางวันสามีป่วยไม่ได้วิ่งรถต้องค้างค่าดอก ทำให้เซลล์ไม่พอใจข่มขู่จะทำร้าย จึงต้องตัดสินใจไปขอกู้เงินจากเซลล์เจ้าอื่นเพื่อนำเงินมาจ่ายค่าดอกที่ค้างไว้กับเจ้าแรก วนไปอยู่แบบนี้จนเป็นงูกินหาง ไม่มีวันจบสิ้น ล่าสุดเป็นหนี้เซลล์ 7 รายๆละ 10,000 บาท รวม 70,000 บาท

โดยหนี้ทั้งหมด ตนไม่เคยนำมาใช้อย่างอื่นเลยนอกจากนำมาจ่ายเป็นค่าดอกเงินกู้นอกระบบ โดยปัจจุบันตนเป็นหนี้ 70,000 บาท ต้องหาเงินมาจ่ายค่าดอกวันละ 2,000 บาท ตนและสามีกัดฟันอดทนหาเงินมาจ่ายค่าดอกอยู่แบบนี้มานานกว่าครึ่งปี จนดอกทบต้นไปแล้วหลายเท่า แต่ก็ไม่มีวี่แววที่จะมีเงินต้นมาคืนได้ จนเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาตนล้มป่วยไม่ได้ทำงานทำให้ไม่มีเงินมาจ่ายค่าดอก จึงถูกเซลล์ข่มขู่จะทำร้ายร่างกายตนและครอบครัว โดยก่อนหน้านี้มีเพื่อนบ้านเคยถูกเซลล์ปล่อยเงินกู้กลุ่มนี้รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บปางตายมาแล้ว แจ้งตำรวจไปก็ไม่มีใครช่วยอะไรได้

ตนจึงตัดสินใจพาลูกทั้ง 2 คน หนีออกมานอนนอกบ้านพร้อมกับสามี โดยอยู่แบบนี้มากว่า 1 อาทิตย์แล้ว ลูกๆ 2 คนไม่ได้ไปโรงเรียน ตนสงสารลูกมาก ลูกถามทุกวันว่าหนูจะได้ไปโรงเรียนอีกไหม ตนนอนกอดลูกร้องไห้ทุกวัน จึงตั้งใจว่าจะจบชีวิตพร้อมกัน 4 คน พ่อ แม่ ลูก แต่พอหันไปมองลูกแล้วเกิดความสงสาร จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือมายังเพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้ช่วยมารับลูกไปดูแล

ด้าน นาย เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งก็ตกใจกลัวนางบุญตรี จะคิดสั้นจึงรีบเดินทางมาหา เมื่อมาถึงตนได้พูดคุยให้กำลังใจ และรับปากว่าจะช่วยแก้ปัญหา โดยจะประสานกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี ในการเรียกเจ้าหนี้แต่ละรายมาเจรจา จะต้องมาดูว่าเจ้าหนี้แต่ละคนได้ดอกเบี้ยไปแล้วคนละกี่บาท ทราบว่าบางรายกู้มา 10,000 บาท แต่ 5 เดือนที่ผ่านมา เก็บดอกเบี้ยได้ไปแล้วกว่า 30,000 บาท แบบนี้ต้องมาคุยกันว่าเงินต้นควรจะเหลือเท่าไหร่ ตนยืนยันว่าเราไม่ต้องการให้ใครโกงใคร เป็นหนี้ก็ต้องใช้หนี้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของมนุษย์ธรรมด้วย ไม่ใช่เห็นว่าเป็นคนยากจนไม่มีทางไป ยังไงก็ไม่สามารถเข้าไม่ถึงสถาบันการเงินได้ จึงคิดดอกเบี้ยร้อยละ 60/เดือน แบบนี้หนักเกินไป เป็นการทำนาบนหลังคน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts