วันอาทิตย์, พฤษภาคม 19, 2024
หน้าแรกการเมืองนายกฯ ป้อม' คุมตำรวจสุดเข้ม กำชับ 5 ข้อ

Related Posts

นายกฯ ป้อม’ คุมตำรวจสุดเข้ม กำชับ 5 ข้อ

‘นายกฯ ป้อม’ คุมตำรวจสุดเข้ม กำชับ 5 ข้อสั่งการเน้นปฏิบัติ ลั่นทุกนาย ห้ามมิให้เรียกรับ ยอมรับ ทรัพย์สิน ผลประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือประพฤติตนไม่เหมาะสม ส่อทุจริต ขู่ซ้ำพบฝ่าฝืนฟัน วินัย-อาญา ทุกราย

เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 65 ที่ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. เพื่อพิจารณาแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 13 แทน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้

โดยภายหลังการประชุม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เปิดเผยว่า การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับชั้นนายพล ซึ่งในการประชุม ก.ต.ช. ได้พิจารณามีความเห็นเรื่องการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่เรียบร้อยแล้ว ส่วนรายละเอียดคงเปิดเผยไม่ได้ เพราะมีขั้นตอนอื่นตามกฎหมายอีก รวมถึงการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตั้งแต่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปจนถึงผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติ จำนวน 254 ตำแหน่ง ซึ่งผ่านการประชุมเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดคงตอบได้เท่านี้ และยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อจนกว่าจะครบกระบวนการตามกฎหมาย ส่วนวาระอื่นๆ ทางรักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจได้มีข้อสั่งการจำนวนมากรายละเอียดของการประชุมจะให้ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แถลง

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า นอกจากเรื่องการแต่งตั้ง พล.อ.ประวิตร ยังได้สั่งการในที่ประชุม กำชับตำรวจ 5 เรื่อง ดังนี้ 1.เรื่องยาเสพติด ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เน้นด้านปราบปรามให้สืบสวนจับกุมเครือข่ายผู้ผลิต ผู้ค้า อย่างจริงจัง ให้ขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายผู้เกี่ยวข้องทุกรายในด้านป้องกัน มุ่งเน้นการลดจำนวนผู้ใช้ ผู้เสพ และผู้ติดยาเสพติดลงให้ได้ โดยใช้ชุมชนหมู่บ้านเป็นศูนย์กลางการแก้ไขปัญหา สร้างความรับรู้กับทุกภาคส่วนว่า ผู้เสพคือ ผู้ป่วย เมื่อสมัครใจเข้ารับการบำบัดแล้วจะไม่เสียประวัติและไม่มีความผิด และใช้มาตรการเชิงรุกด้านการค้นหาผู้เสพยาเสพติดนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ให้เดินหน้าโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ให้สำนักงานตำรวจ รวมทั้งให้มีการประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพ

2.เรื่องแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ให้กวดขันจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานฝ่ายทหาร ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง เพื่อสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง โดยเน้นไปที่ผู้ปฏิบัติงานระดับพื้นที่ตามแนวชายแดน และชุมชนตามแนว หากมีการจับกุมให้ขยายผลให้ถึงขบวนการอย่างเด็ดขาด โดยกรณีเข้าข่ายการค้ามนุษย์ ให้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารคดี และการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

3.เรื่องอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เร่งรัดสืบสวนจับกุม ปราบปราบขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือเครือข่ายฉ้อโกงประชาชนในความผิดต่างๆ รวมทั้งสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายทุน คนเปิดบัญชีม้า และดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำผิดทุกราย โดยนำมาตรการตามกฎหมายฟอกเงินมาบังคับใช้ติดตามทรัพย์สินมาคืนให้กับผู้เสียหายเพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น

“ให้กวดขันจับกุมผู้กระทำผิดที่ใช้ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ เช่น ค้าอาวุธปืน การพนัน ออนไลน์ ยาเสพติด และอื่นๆ โดยให้ขยายผลไปยังกลุ่มทุนทุกราย และเน้นมาตรการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อแจ้งเตือนประชาชนทุกรูปแบบให้ทราบถึงกลโกง วิธีการของคนร้าย เพื่อให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงประเภทต่างๆ ให้ทั่วถึงประชาชนทุกกลุ่ม” โฆษก ตร. กล่าว

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวอีกว่า ข้อ 4.แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ให้สืบสวนจับกุม กลุ่มผู้ลักลอบปล่อยเงินกู้ และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่ รวมถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง อย่างจริงจังเด็ดขาด ให้ยึด อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เช่น เงินสด ยานพาหนะ ของกลุ่มคนร้าย เพื่อเป็นการตัดวงจรการกระทำผิดซ้ำ ให้จัดทำสารบบข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนจับกุม ผู้กระทำผิด และ 5.กำชับข้าราชการตำรวจทุกนาย ห้ามมิให้เรียกรับ ยอมรับ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือกระทำการใดที่เป็นการประพฤติตนไม่เหมาะสม หรือส่อไปในทางทุจริต ประพฤติมิชอบ โดยในผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นควบคุม ตรวจสอบ และกำกับดูแล หากพบการฝ่าฝืนให้พิจารณาทางปกครอง วินัย และอาญาอย่างจริงจังทุกราย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts