วัชระไม่ยอม! สิงห์ศึก ส่อตีตกไม่รับสอบกรณี สว.ฉาวซุกเมียน้อย ชี้ช่องสอบได้ไม่ยาก ขู่หากยังเฉย ต้องถึงขั้นถวายฎีกา
(30 ส.ค.65)เมื่อเวลา 14.00 น.ที่อาคารรัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวตอบโต้ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา กล่าวถึงความคืบหน้าในคำร้องนายวัชระ ยื่นให้สอบสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่เกี่ยวข้องกับการฝาก ส.ต.ท.หญิง เข้ารับราชการและทารุณทหารหญิง ว่ายังไม่ได้รับเรื่องอย่างเป็นทางการ และนายวัชระไม่ได้ระบุว่าให้สอบ สว.คนใด ในเรื่องใด ผิดข้อบังคับใด จึงไม่เป็นไปตามระเบียบ ที่คณะกรรมการจะสามารถนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมได้ ซึ่งส่อว่าจะตีตกเรื่องนี้ไปนั้น
นายวัชระ เพชรทอง กล่าวว่า ตนขอให้ตรวจสอบเอกสารว่า สว. คนนี้ในสมัยที่เป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช. )มีการแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิงเป็นผู้ช่วย สนช. และยังเสนอยศเป็นส.ต.ท. อีกด้วยใช่หรือไม่ และย้ายไปเป็นข้าราชการตำรวจสังกัดสันติบาล ได้รับเงินเดือน ค่าเบี้ยเลี้ยง ถือเป็นการเอาเปรียบประชาชนหรือไม่ รวมถึงยังมีเอกสารการส่งไปอบรมหลักสูตรวุฒิบัตรการปฏิบัติงานสนับสนุนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รุ่นที่ 6 สถาบันพระปกเกล้าฯ อีกทั้งยังมีการส่งส.ต.ท.หญิงคนนี้ไปปฏิบัติที่ กอ.รมน. ภาค4 ส่วนหน้า ทั้งที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่จริง ซึ่งเอกสารเหล่านี้ พล.อ.สิงห์ศึก สามารถตรวจสอบก็จะรู้ได้อยู่แล้วว่าเป็นใครที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น การจะหาทางตีตกคำร้องของตนเพียงแต่อ้างว่าไม่ระบุชื่อว่าให้ตรวจสอบ ส.ว.คนไหนนั้นฟังไม่ขึ้น แค่ไปตรวจตามเส้นทางของเอกสารเหล่านี้ที่ยังเก็บไว้ในสำนักเลขาฯ วุฒิสภาก็ทราบแล้วว่าเป็นใคร ใครเป็นคนเซ็น เหมือนประชาชนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ก็ไม่จำเป็นไปบอกชื่อผู้ต้องหา เพราะเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะแสวงหาความจริง อย่างไรก็ตามตนจะรวบรวมหาพยานหลักฐานเพื่อหาตัวสว.คนนี้ให้ได้ เพราะยังไม่ทราบว่าสว.คนนั้นเป็นใครเช่นกัน แต่หากอยากทราบว่าเป็นใครให้ไปถาม พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล หัวหน้าพนักงานสอบสวน ส.ต.ท.หญิงคนดังกล่าว ซึ่งสอบสวนเรียบร้อยแล้ว และหากว่าถึงที่สุดแล้วจะมีการตีตกคำร้องของตนจริงๆ ก็จะไปยื่นถวายฎีกาต่อประธานองคมนตรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากเป็นถึงสว.ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง และ ส.ต.ท.หญิงซึ่งเป็นกิ๊กกัน ยังได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ กินเงินภาษีประชาชน แต่กลับกระทำผิดจริยธรรมเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่ระคายเคืองเบื้องยุคลบาท และควรจะต้องคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนด้วย
นายวัชระ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการประสานมาจากคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรมว่าให้ไปชี้แจงข้อมูลอย่างไร รวมถึงยังไม่ได้รับเอกสารแจ้งจาก พล.อ.สิงห์ศึก ให้แจ้งเอกสารหรือรายชื่อ สว.เพิ่มเติม หากมีการประสานมาก็ยินดีที่จะไปให้ข้อมูล และฝากถึงบรรดาเมียหลวงของสว.ท่านต่างๆ หากมีปัญหาพฤติกรรมเช่นนี้ ก็สามารถแจ้งมายังตนเพื่อให้ทำการตรวจสอบได้เช่นกัน
ขณะเดียวกัน สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงความคืบหน้าการพิจารณาข้อเท็จจริงคำร้องดังกล่าว พบว่ายังดำเนินการไม่ถูกต้องตามระเบียบว่าด้วยการยื่นเรื่องร้องเรียน ดังนั้น ประธานวุฒิสภาจึงสั่งให้สำนักงานฯ แจ้งไปยังผู้ร้องเพื่อทราบและปรับปรุงแก้ไขเรื่องร้องเรียนให้มีความถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์และเป็นไปตามระเบียบ รวมทั้งประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี สถานีตำรวจภูธรชะอำ และสถานีตำรวจภูธรหัวหิน เพื่อรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น สำหรับประกอบการพิจารณาเรื่องร้องเรียนดังกล่าวอีกทางหนึ่ง
ในประเด็นนี้ นายวัชระ กล่าวว่า ตนส่งหนังสือถึงประธานวุฒิสภาให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ไม่ได้ให้ส่งไปที่คณะกรรมการจริยธรรมเพียงอย่างเดียว เพราะเกี่ยวพันการกระทำความผิดมีหลายประเด็น ทั้งการบรรจุแต่งตั้งกิ๊กเป็นตำรวจ คนรับใช้กิ๊กเป็นทหาร ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงควรตั้งกรรมการที่มาจากหลายคณะกรรมาธิการ เช่น กมธ.ตำรวจ กมธ.ทหาร และกมธ.ยุติธรรม เป็นต้น ซึ่งการมาโยนปัญหาหรือปัดสวะกัน ไม่ตอบคำถามเหมือนไม่เห็นหัวประชาชน หากเป็นเช่นนี้ก็อาจจำเป็นต้องถวายฎีกาต่อไป