ส่งศาลแล้วบันทึกคำ”มีชัย”ถกครั้งที่ 501 ยัน ”8 ปี” นับ 57-สะพัดไม่จดชวเลขทุกตัว “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต. โพสต์เฟซบุ๊ก ถอดรหัส 5 ข้อ บันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 501 เป็นหลักฐานแย้ง “มีชัย ฤชุพันธุ์” หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาฯ ส่งสำเนาบันทึกการประชุม และรายงานการประชุม ภายใน 13 ก.ย. 65 ซัด! รัฐธรรมนูญ 1 ฉบับ และ ก.ม.ลูก 10 ฉบับ ที่ล้วนแล้วแต่สร้างความวุ่นวาย มึนงง ให้แก่สังคม แม้แต่จะสร้างความชัดเจนว่า ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ครบ 8 ปี หรือยัง ยังต้องถกเถียงกัน
วันที่ 10 กันยายน นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมาถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดส่งสำเนาบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ครั้งที่ 501 เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 มีวาระการประชุม รับรองการประชุมครั้งที่ 500 วันที่ 7 กันยายน 2561 ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมตรวจทานแล้วโดยไม่มีการแก้ไข ให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 13 กันยายนนี้ เพื่อพิจารณาประกอบคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ส่งผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้วินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่หรือไม่ ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาได้เตรียมเอกสารไว้แล้ว เนื่องจากศาลได้ส่งหนังสือขอเอกสารมาทางอีเมล์เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา แต่เอกสารฉบับทางการมาถึงสำนักงานเลขาธิการสภาในช่วงเวลา 18.00 น.ในวันเดียวกัน สำนักงานเลขาธิการสภาพร้อมเตรียมส่งเอกสารที่ทางศาลรัฐธรรมนูญขอมาในวันเดียวกันนี้
เมื่อถามว่าเอกสารของทางสำนักงานเลขาธิการสภาถือว่าเป็นหลักฐานทางชั้นศาลได้หรือไม่ นางพรพิศ กล่าวว่า เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทางสำนักงานเลขาธิการสภามีเอกสารครบ เพราะเราเป็นแหล่งจัดเก็บเอกสารทางประวัติศาสตร์ของสถาบันนิติบัญญัติทั้งหมด ดังนั้น ทุกอย่างจึงมีครบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดส่งสำเนาบันทึกการประชุม และรายงานการประชุม กรธ. ครั้งที่ 501 มีรายงานข่าวจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประชุม กรธ.แจ้งว่า การประชุมของ กรธ.ในช่วงทำความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เป็นช่วงเวลาหลังจากที่ทำรัฐธรรมนูญ 2560 แล้วเสร็จนั้น พบว่ามีเพียงการทำบันทึกการประชุมเท่านั้น ไม่มีรายงานการประชุมใช้เจ้าหน้าที่ชวเลขดำเนินการบันทึกจดคำพูดทุกตัวอักษร เนื่องจาก นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ. ระบุว่าไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ชวเลข เพราะผ่านขั้นตอนการทำรัฐธรรมนูญแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบันทึกการประชุม กรธ.ครั้งที่ 500 ได้มีการเผยแพร่ความเห็นส่วนตัวของนายมีชัยเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯครบ 8 ปี โดยระบุว่าให้นับรวมการดำรงตำแหน่งนายกฯ ก่อนที่รัฐธรรมนูญ 2560 บังคับใช้ด้วย โดยนับตั้งแต่ปี 2557
ส่วนกรณีเป็นประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการประชุม กรธ.ครั้งที่ 500 นายมีชัยระบุในคำชี้แจงส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า เป็นการจดรายงานไม่ครบถ้วน และสรุปตามความเข้าใจของผู้จด อีกทั้ง กรธ.ยังไม่ได้ตรวจรับรองรายงานการประชุมนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ในบันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 501 เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 มีคำยืนยันว่าผ่านการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมและรายงานการประชุม โดยคณะอนุกรรมการที่มี นายอภิชาต สุขัคคานนท์ อดีต กรธ. ในฐานะประธานอนุกรรมการ ในคณะดังกล่าวมี นายสุพจน์ ไข่มุกด์ เป็นรองประธาน กรธ. คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่อนุกรรมการตรวจบันทึกการประชุมด้วย
“หากบันทึกการประชุมของ กรธ.ครั้งที่ 500 ทำไม่ถูกต้องตามที่นายมีชัยระบุในคำชี้แจงที่ให้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ นายสุพจน์ร่วมเป็นอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมต้องทักท้วงและท้วงติงก่อนนำเสนอให้ที่ประชุม กรธ.ครั้งที่ 501 พิจารณาแล้ว เนื่องจากในบันทึกการประชุม กรธ.ครั้งที่ 500 นั้นมีการจดบันทึกและรายงานการแสดงความคิดเห็นของนายสุพจน์ไว้คู่กับนายมีชัยด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับบันทึกการประชุมนั้นเป็นเอกสารเผยแพร่ได้ ในห้องสมุดรัฐสภา และอดีต กรธ.ทุกคน จะมีบันทึกการประชุมทุกนัดไว้คนละหนึ่งฉบับ” รายงานข่าวระบุ
“สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต. โพสต์เฟซบุ๊ก ถอดรหัส 5 ข้อ บันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 501 เป็นหลักฐานแย้ง “มีชัย ฤชุพันธุ์” หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาฯ ส่งสำเนาบันทึกการประชุม และรายงานการประชุม ภายใน 13 ก.ย. 65
โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อเขียนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า บันทึกการประชุมครั้งที่ 501 บอกอะไรเราบ้าง
1. แปลว่า ในช่วง 2 ปีของการร่างรัฐธรรมนูญ และ ก.ม.ลูก มีการประชุมอย่างน้อย 501 ครั้ง (แทบทุกวันใน 1 สัปดาห์) ประธานมีชัย ได้เบี้ยประชุม ครั้งละ 9,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 4.5 ล้านบาท กรรมการได้ครั้งละ 6,000 บาท รวมเป็นเงินคนละ กว่า 3 ล้านบาท
2. หากครั้งหนึ่งมีกรรมการเข้าประชุมครบ 21 คน ต้องจ่ายเบี้ยประชุม 129,000 บาท ประชุม 501 ครั้ง เป็นเงิน 64.6 ล้านบาท ไม่รวมค่าอาหาร ค่าไฟฟ้า ค่าจัดสัมมนา ค่าเดินทาง ที่พักนอกสถานที่
3. ผลผลิต คือ รัฐธรรมนูญ 1 ฉบับ และ ก.ม.ลูก 10 ฉบับ ที่ล้วนแล้วแต่สร้างความวุ่นวาย มึนงง ให้แก่สังคม แม้แต่จะสร้างความชัดเจนว่า ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ครบ 8 ปี หรือยัง ยังต้องถกเถียงกัน
4. บันทึกฉบับที่ 501 เป็นการระบุว่า ที่ประชุมได้มีการรับรองบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 โดยไม่มีการแก้ไข จึงเป็นหลักฐานแย้งที่นายมีชัยทำหนังสือชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่า บันทึกครั้งที่ 500 ที่ระบุว่า 8 ปี ต้องนับก่อนหน้า 2560 ด้วยนั้น เลขาฯ จดผิด จากความเข้าใจเลขาฯ เอง
5. บันทึกสองฉบับนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ทำหนังสือขอจากรัฐสภาแล้ว หากนายมีชัย ให้การเท็จในจดหมายชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ โปรดเตรียมตัวย้ายบ้านด้วย