วันพุธ, ธันวาคม 4, 2024
หน้าแรกการเมืองสีสันการเมืองยกฟ้อง “สุเทพ - พวก” คดีโรงพัก เจ้าตัวดีใจพ้นมลทิน

Related Posts

ยกฟ้อง “สุเทพ – พวก” คดีโรงพัก เจ้าตัวดีใจพ้นมลทิน

ศาลฎีกา แผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้อง “สุเทพ เทือกสุบรรณ – พวก” รวม 6 ราย คดีทุจริตฮั้วประมูลก่อสร้างโรงพักทดแทน เจ้าตัวดีใจพ้นมลทิน ยันไม่ฟ้องกลับใคร ลั่นไม่หวนกลับมาเล่นการเมืองอีกแน่ แต่ยืนอยู่ข้างพรรคการเมืองของประชาชน “ชูวิทย์” เปรียบเทียบคดีโรงพัก กับจำนำข้าว ความเหมือนที่แตกต่าง คดีหนึ่งไม่พบหลักฐานการทุจริต อีกคดีหนึ่งพบหลักฐานการทุจริต แต่ก็เป็นเพียงผู้กำกับดูแลนโยบาย

เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2565 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อม.22/2565 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี , พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ, พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์ , บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และ นายวิศณุ วิเศษสิงห์ เป็นจำเลยที่ 1-6 กรณีร่วมฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดเเทน และโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก (แฟลตตำรวจ)

โดย ศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องนายสุเทพ กับพวกทั้งหมด 6 ราย

ทั้งนี้ข้อเท็จจริงปรากฏว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง โดยไม่ได้อนุมัติแนวทาง รูปแบบ หรือวิธีการจัดจ้าง พร้อมทั้งให้ความเห็นชอบเปลี่ยนแปลงแหล่งรายได้จากหลักทรัพย์เป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปี

จำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่ได้เสนอเรื่องให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ ถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบวิธีการจัดจ้างโครงการดังกล่าว จึงไม่ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่ให้เสียหายต่อทางราชการตำรวจ และการจัดซื้อจัดจ้าง จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

สำหรับ จำเลยที่ 2 พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ศาลพิพากษาว่า เป็นการเสนอรูปแบบการจัดจ้างตามสายงาน ในฐานะรักษาการแทน ผบ.ตร. ในขณะนั้น ไม่ว่าจำเลยที่ 1 จะให้ความเห็นชอบหรือไม่ก็ตาม จึงไม่ถือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่ให้เสียหายต่อทางราชการตำรวจ และการจัดซื้อจัดจ้าง จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

โดย นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลมีคำพิพากษายกฟ้องว่า ดีใจที่พ้นมลทินเสียที หลังต้องถูกโจมตีว่าเป็นคนทุจริต 8-9 ปี พร้อมประกาศสนับสนุนพรรคการเมืองของประชาชน แต่ไม่ขอหวนกลับมาเล่นการเมืองอีก ยืนยันไม่ฟ้องกลับใคร

“ชูวิทย์” เปรียบเทียบคดีโรงพัก กับจำนำข้าว ความเหมือนที่แตกต่าง

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 65 หลังจากที่ศาลฎีกาได้พิพากษายกฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี รอดบ่วงกรรม กว่า 10 ปี คดีอื้อฉาวแห่งยุคดังกล่าว นายชูวิทย์ กมลวิศษฏ์ ได้โพสต์ข้อความเรื่องนี้ โดยเปรียบเทียบคดีโรงพัก กับ คดีจำนำข้าว ความเหมือนที่แตกต่าง โดยมีรายละเอียดว่า

ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องคุณสุเทพ เพราะเห็นว่า เป็นเพียงรองนายกฯ ผู้กำกับดูแลนโยบาย ครม. อนุมัติโครงการนี้เพียงหลักการเฉพาะเรื่อง “เปลี่ยนรูปแบบการลงทุน” ส่วนวิธีการจัดจ้าง เป็นเรื่องของหัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้ให้ความเห็นชอบ อีกทั้ง คุณสุเทพมีหน้าที่เพียง “กำกับดูแลนโยบาย” โดยทั่วไป การเซ็นอนุมัติรวมสัญญาตามที่ สตช. เสนอมาก็ไม่ต้องผ่าน ครม.

สรุปยกฟ้อง ไม่ผิด ม.157

ส่วนจำเลยอื่นไม่ปรากฏว่าใช้อำนาจครอบงำสั่งการให้เสนอขอเปลี่ยนแปลงวิธีจัดจ้าง หรือมีวิธีการที่มิชอบอื่นๆ เมื่อคำพิพากษามาเป็นแบบนี้ ก็ต้องยอมรับ เพียงแต่ทำให้ผมหวนคิดถึง “คดีจำนำข้าว” ของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้ “กำกับดูแลนโยบาย” เช่นกัน แค่คิดเปรียบเทียบเท่านั้น เพราะผมเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา ไม่ได้รู้เรื่องกฎหมายอะไรลึกซึ้ง อย่าคิดว่าผมไปเข้าข้างใคร บาปกรรมตาย

ระหว่าง คดีโรงพัก กับ คดีจำนำข้าว

คดีหนึ่งไม่พบหลักฐานการทุจริต อีกคดีหนึ่งพบหลักฐานการทุจริต แต่ก็เป็นเพียงผู้กำกับดูแลนโยบาย และไม่พบว่าใช้อำนาจครอบงำสั่งการให้มีการทุจริตเหมือนกัน

ผมหมายถึงระดับ นายกฯ และรองนายกฯ นะครับ แม้ความเสียหายจะมีตัวเลขที่แตกต่างกัน แต่จะเสียหายเงินหลวง บาทนึง หรือเป็นหมื่นล้าน

ผิดคือผิด ถูกคือถูก
ประชาชนอย่างผมก็คิดได้เท่านี้
มิน่าเล่า ผมถึงไม่รุ่งทางการเมืองเหมือนคนอื่นเขา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts