กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ และ พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปอศ.ร่วมกันจับกุม นางสาวชวัลลักษณ์ สงวนนามสกุล อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2647/2565 ลง 28 พฤศจิกายน 2565
ฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถ โรงพยาบาล บี แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 11.00 น.
พฤติการณ์ เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2564 ต่อเนื่อง 2565 นางวางชวัลลักษณ์ ฯ ผู้ต้องหา และบริษัท บายสมาร์ทพลัสฯ กับพวก ได้ร่วมกันชักชวนประชาชนโดยทั่วไปมาลงทุนซื้อสินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยเสนอการลงทุนซื้อสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งจะได้เงินปันผลคืน 25% ในรูปแบบเหรียญในแอพพลิเคชั่น หากแนะนำผู้อื่นมาร่วมลงทุนผู้แนะนำก็จะได้รับค่าตอบแทนเช่นกัน ผู้เสียหายกับพวกหลงเชื่อ จึงได้ร่วมลงทุน ซึ่งระหว่างร่วมลงทุนเคยได้รับผลตอบแทนและสินค้าตามที่ บริษัท บายสมาร์ทพลัส กับพวก โฆษณาจริงในระยะแรก ต่อมาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ผู้เสียหายกับพวกไม่สามารถนำเหรียญในแอพพลิเคชั่นดังกล่าวไปซื้อสินค้าหรือโอนเป็นเงินสดได้แต่อย่างใด เมื่อทวงถาม บริษัท บายสมาร์ทพลัส กับพวกก็บ่ายเบี่ยงไม่จ่ายผลตอบแทน ทำให้ผู้เสียหายกับพวก จำนวนกว่า 70 ราย ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 30 ล้านบาท จึงได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับบริษัท บายสมาร์ทพลัส กับพวกตามกฎหมาย พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้ ต่อมาวันนี้ (8 ธ.ค.65) เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ.ได้จับกุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เตือนภัย บก.ปอศ. ฝากเตือนถึงพี่น้องประชาชนให้ทราบถึงพฤติการณ์ของคนร้ายที่หลอกลวงเหยื่อในหลายลักษณะ อยากให้ตั้งข้อสังเกตว่า หากมีผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน โดยให้ผลตอบแทนเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า ท่านอาจกำลังถูกหลอก ควรตรวจสอบกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนลงทุน
