ความรุนแรงจากการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ขยายพื้นที่อันตรายใกล้จุดสุดท้าย กระทบถึงจุดท่องเที่ยวสำคัญ…เมืองหาดใหญ่
มีสัญญาณบอกกเหตุ…อันตรายใกล้ตัวเข้ามาทุกที
เตือนให้ทุกฝ่ายต้องร่วมกันรักษาบ้านรักษาเมือง ทำงานด้านความปลอดภัยร่วมกัน อย่างมีระบบในทุกมิติ
ไม่ใช่….โยนกันไปโยนกันมา เมื่อเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น ค่อยมาดมกลิ่น หาต้นเหตุปลายเหตุ…เหวี่ยงความรับผิดชอบให้พ้นตัว
ปล่อยให้พวกโจรมันมีพลัง…ทุกครั้งที่ลงมือปฏิบัติการ ใช้แนวร่วมเพียงไม่กี่คน ฝ่ายหน่วยงานหลักที่ทำงานด้านความมั่นคง หลงทางกันไปคนละทิศ
บทเรียน…ซ้ำซ้อนซ่อนเงื่อนไขไว้กับหน่วยงานรัฐ ที่ประชาชนคนในพื้นที่…มองเห็นปัญหา ที่พวกเขาไม่มีปัญญาไปร่วมคิดได้
ครับ…ระเบิด 2 ครั้ง บนเส้นทางรถไฟ ระหว่างสถานีคลองแง-ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จังหวัดสงขลา มีผู้เสียชีวิต
กับความเสียหาย…ครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง มีผลกระทบอย่างรุนแรง ฝ่ายดูแลความมั่นคงทุกพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้…
ตั้งแต่แม่ทัพนายกอง…ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อบต.-อบจ.ที่ร่วมกันรับผิดชอบ ก็ยังมองไม่พบจุดบกพร่อง…ของตัวเอง
ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.ศานติ ศกุลตนาค ได้สั่งการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมปรับคุมเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่
แสดงว่า…ท่านยังไม่คุ้ยเคยกับยุทธการเผชิญเหตุ ในทุกพื้นที่ไม่สงบเหล่านั้น เพราะนอกจากการใช้ยุทธวิธีแล้ว ยังจะต้อง…เข้าถึงเข้าใจในองค์กร ที่แยกสีกันทำงาน ยังขาดความเป็นหนึ่งเดียวด้วยกัน
ท่านแม่ทัพฯ…เพิ่งรับหน้าที่ ยังไม่ทันมองช่องว่างในกำลังรบ… ทุกฝ่ายพร้อมรบในทุกบริบทของปัญหาซับซ้อนซ่อนไว้ใต้อำนาจใดบ้าง
ท่านยังไม่ทันมองไปทั่วทุกจุดได้…ที่จะต้องแก้ไข…ที่จะต้องเดินไปข้างหน้ากับกำลังรบ ด้วยความเชื่อมั่นว่า ทุกฝ่ายทำงานเพื่อแผ่นดินแห่งนั้น
ข้อบกพร่องที่กลุ่มโจรมองเห็น เป็นช่องว่าง พร้อมปฏิบัติการนอกรูปแบบได้ไม่ยาก
ล้วนมาจาก…การกระจายความรับผิดชอบ ไม่ลงตัว..
ไม่มีหัวไม่มีหาง ไม่มีเงิน ไม่อำนาจ จนกว่า “หน่วยเหนือ” จะสั่งการลงไปถึงใคร??
ไปตรวจสอบกันดูเถอะ…โจรก่อเหตุร้าย ทำลายความมั่นคงแต่ละครั้ง มันทำได้สำเร็จแทบทุกครั้ง ที่พวกมันลงมือทำ…
ใครอยู่เบื้องหลังโจร!!
“ชัยอารีย์” #สืบจากข่าว : รายงาน
