5 มกราคม 2566 “นครบาล ชี้แจงความคืบหน้า กรณีอุบัติเหตุรถหรูเฉี่ยวชนบนทางด่วน” พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น./ รองโฆษก บช.น. ขอประชาสัมพันธ์ชี้แจงกรณี ตามที่ได้เกิดเหตุรถเบนเล่ เฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้อื่นเป็นเหตุได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 เวลา ประมาณ 00.38น. ซึ่งกองบัญชาการตํารวจนครบาลได้แถลงความคืบหน้า ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบเมื่อ วันที่ 11 มกราคม 2566 ไปแล้วนั้น
จากการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมพบว่า ผลการตรวจเลือดของผู้ต้องหา มี สารเสพติด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคําแพทย์ผู้ตรวจประกอบไว้เรียบร้อยแล้ว
กองบัญชาการตํารวจนครบาลจึงขอประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าเกี่ยวกับการดําเนินการเพิ่มเติม โดย ขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเรียกตัวผู้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา ได้แก่
1.เสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมาย
2.เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
3.ขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สิน
กรณีข้อหา “เสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่นอกอํานาจการสอบสวนของงานควบคุมจราจรทางด่วน 1 นั้น
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตํารวจนครบาล ได้มีคําสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผบก.จร.เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมีพนักงานสอบสวนของ สถานีตํารวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ร่วมเป็นพนักงานสอบสวนด้วย
สําหรับในเรื่องของความเร็วนั้น อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐาน หากพบว่าเร็วเกิน กว่าที่กฎหมายกําหนด จะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
กรณีการตรวจสอบรถยนต์เบื้องต้น พบว่ามีการจดทะเบียนถูกต้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจของ กองพิสูจน์หลักฐานเช่นเดียวกัน ว่ามีการปลอมแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งหรือไม่
กองบัญชาการตํารวจนครบาล ภายใต้การกํากับดูแลของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับการ ดําเนินการเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว และขอเรียนย้ําว่า กองบัญชาการตํารวจนครบาล จะดําเนินการเร่งรัดเกี่ยวกับ การดําเนินคดีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อไป