บก.ป. จับหนุ่มแสบหลอกขายโทรศัพท์มือถือ
“ได้น้ำตาลทรายแทน พบผู้เสียหายอื้อ”
กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.1 บก.ป. นำโดย พ.ต.ท.จักรี กันธิยะ สว.กก.1 บก.ป.
ได้ร่วมกันจับกุม นายภคกฤต (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 288/2559 ลง 25 ส.ค.59 ความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และฉ้อโกงทรัพย์” โดยจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนเลียบทางรถไฟแห่งหนึ่ง แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
เหตุเกิดเมื่อประมาณปี พ.ศ.2556-2557 นายภคกฤต ผู้ต้องหานี้หลอกขายโทรศัพท์มือถือมือสองในราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยวิธีการประกาศขายโทรศัพท์มือถือมือสองผ่านเว็บไซต์สาธารณะ มีผู้เข้าชมติดตามจำนวนมาก เมื่อมีประชาชนที่เข้าไปดูเว็ปไซต์ดังกล่าวและเห็นประกาศขายโทรศัพท์มือถือมือสองที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป 10,000-20,000 บาท จึงหลงเชื่อตกลงซื้อ โดยผู้เสียหายได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารที่ผู้ต้องหา ประกาศในเว็ปไซต์ไว้ เมื่อถึงกำหนดส่งโทรศัพท์มือถือให้กับลูกค้า ผู้ต้องหาได้ส่งน้ำตาลทรายไปแทน จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียหายถูกหลอก ในลักษณะดังกล่าวหลายรายและหลายพื้นที่ เนื่องจากเว็ปไซต์ดังกล่าว เป็นเว็ปไซต์ขายสินค้าออนไลน์ชื่อดัง มีประชาชนเข้าชมและติดตามเป็นจำนวนมาก เมื่อผู้เสียหายเปิดพัสดุและพบว่าพัสดุที่ได้รับเป็นน้ำตาลทราย จึงได้ทยอยเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในหลายๆพื้นที่ และพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา
เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ให้ถึงที่สุด
จนกระทั่งวันที่ 10 กพ.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนี คดีและมาปรากฏตัวอยู่ที่เลียบทางรถไฟแห่งหนึ่ง แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ จึงออกตรวจสอบจนพบผู้ต้องหายืนอยู่บริเวณริมถนนเรียบทางรถไฟแห่งหนึ่ง แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาทราบ จากนั้นได้จับกุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่าผู้ต้องหามีหมายจับในคดีอื่นๆ อีกหลายหมายจับในหลายพื้นที่
จากการสอบถาม เบื้องต้นผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด