ปอท.ร่วม ตำรวจน้ำ จับคาผ้าเหลืองผู้ต้องหาหลอกขาย
โปรแกรมป้องกันไวรัสออนไลน์
กองบังคับการปราบปรามการประทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ กองบังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.คณพศ บุญนฤธี สว.ส.รน.5 กก.10 บก.รน.
ร่วมกันจับกุม นายองอาจ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 18/2565 ลงวันที่ 3 ก.พ.2565 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันมิใช่เป็นการกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา”โดยจับกุมตัวได้ที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ด่าน อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนธค.64 นายองอาจ ผู้ต้องหาได้โพสต์ประกาศขายโปรแกรมป้องกันไวรัสผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อผู้เสียหายพบเห็นจึงเกิดความสนใจและได้ติดต่อพูดคุยกับผู้ต้องหาเพื่อสอบถามรายละเอียดสินค้า ต่อมาเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อทำการโอนเงินค่าชุดโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว ผู้เสียหายกลับไม่ได้รับสินค้าแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อทำการทวงถาม ผู้ต้องหากลับบ่ายเบี่ยง จนกระทั่งไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อมอบคดีให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
จากกรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เร่งทำการสืบสวนมาโดยตลอด จนกระทั่งวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาบวชเป็นพระและจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ใน จ.ศรีสะเกษ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบนายองอาจ ผู้ต้องหาตามหมายจับปรากฏตัวอยู่ที่วัดดังกล่าวจริง จึงได้แสดงหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ และได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
ตำรวจสอบสวนกลาง จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขายหรือร้านค้าออนไลน์โดยละเอียดก่อนตัดสินใจชำระเงินซื้อสินค้าประเภทต่างๆออนไลน์ ทั้งนี้ในกรณีที่ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกฉ้อโกง ควรเก็บรายละเอียดต่างๆในการติดต่อซื้อขาย เช่น ชื่อผู้ขายหรือชื่อร้านค้าออนไลน์, หลักฐานการชำระเงิน หรือ รายละเอียดบทสนทนาการติดต่อซื้อขาย ไว้เป็นหลักฐานเพื่อประกอบการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย
