กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป. และ พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ รอง ผกก.1 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.มณเทียร ธงเทียน รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป., ร.ต.ท.ชวรินทร์ แหล่งสท้าน ปรก.รอง สว. กก.1 บก.ป., จ.ส.ต.พิสิษฐ์ บุดดีเฆ่, ส.ต.อ.เจษฏา อาจน้อย และ ส.ต.อ.นิติพัฒน์ แห่งหน ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายจิตรภณ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 605/2563 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” โดยในการจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตรวจสอบ พบหมายจับที่ยังมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายอีก 4 หมายจับ คือ
1.หมายจับศาลอาญา ที่ 30/2563 ลงวันที่ 20 มกราคม 2563 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง, ฉ้อโกงประชาชน”
2.หมายจับศาลอาญา ที่ 49/2563 ลงวันที่ 20 มกราคม 2563 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
3.หมายจับศาลอาญา ที่ 162/2563 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2563 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”
4.หมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 249/2563 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2563 กระทำความผิดฐาน “ความผิดฐานฉ้อโกง” จับกุมได้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เขตราชวิถี กทม.
เมื่อประมาณปี พ.ศ.2562 ผู้ต้องหาได้หลอกลวงให้ร่วมลงทุนโครงการซื้อขายทำกำไรระยะสั้นของหุ้นต่างประเทศ (ชอร์ตหุ้น) โดยอ้างว่ามีผู้บริหารระดับประเทศทั่วโลกจะดำเนินการนำเงินลงทุนไปซื้อขายหุ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นของวอลล์สตรีทปิดทุกวัน ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง โดยในการหลอกลวงดังกล่าวจะมีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน คือ นายศรฉัตร (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี และนายพีระยุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน และเป็นผู้ดูแลโปรแกรมการลงทุน โดยทั้งสองจะทำทีประกาศชักชวนให้ผู้เสียหายเข้ามาเป็นสมาชิกร่วมลงทุนกับกลุ่มเอนปี (NEW BLOCD) ที่มีผู้ต้องหาเป็นผู้บริหารงาน อีกทั้งยังมักจะกล่าวอ้างกับผู้ลงทุนให้ทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นนายทหารยศพันตรี เป็นลูกของรองประธานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และมีบุคคลสำคัญของประเทศคอยหนุนหลังอยู่ จึงทำให้มีผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก
โดยในระยะเริ่มแรกประมาณ 3 – 4 เดือน กลุ่มผู้ต้องหาได้มีการจ่ายเงินปันผลให้กับทางผู้ลงทุนจริง แต่ต่อมากลุ่มผู้ต้องหาได้ขอเลื่อนจ่ายเงินปันผลออกไป จนกระทั่งปฏิเสธการจ่ายเงิน และหลบหนีไป ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้ เนื่องจากเป็นคดีที่มีพฤติการณ์ในการกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง มีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 50 ล้านบาท โดยผู้ต้องหากระทำไปโดยมิได้เกรงกลัวต่อกฎหมาย และยังคงหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
ในวันที่ 16 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา จนทราบว่าผู้ต้องหาได้เดินทางมาในพื้นที่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังลงจับกุม โดยสามารถจับกุมได้ที่ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นจึงนำตัวส่งศาลอาญาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา