วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 28, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมปอศ. รวบ ผช.ผจก.ธนาคารแสบ แอบถอนเงินคุณยายวัย 80 ปี ไป 2 ล้านบาท

Related Posts

ปอศ. รวบ ผช.ผจก.ธนาคารแสบ แอบถอนเงินคุณยายวัย 80 ปี ไป 2 ล้านบาท

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ช., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.พัฒนา ฉายาวัฒน์, พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.ธนิต กรปรีชา, พ.ต.ท.กริช วรทัต, พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี รอง ผกก.5 บก.ปอศ. นำโดย พ.ต.ท.ประดิษฐ์ สุวรรณดี, พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.5 บก.ปอศ., พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศษฐกิจ

จับกุมนายพรชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 104/2566 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง และพนักงานของสถาบันการเงิน กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นการเสียหายแก่สถาบันการเงิน” พร้อมทรัพย์สินหลายรายการได้แก่ รถยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่น X3 จำนวน 1 คัน, รถยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่น 320D จำนวน 1 คัน, เอกสารข้อตกลง จำนวน 1 แผ่น , สุมดบัญชี TMB จำนวน 1 เล่ม, สมุดบัญชีธนาคารกสิรไทย จำนวน 7 เล่ม, เอกสาร ต่าง ๆ จำนวน 1 ชุด, โทรศัพท์ มือถือยี่ห้อ ไอโฟน 14 pro จำนวน 1 เครื่อง จับกุมได้ที่บ้านพักย้านพุทธมณฑลสาย 3

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 ได้มีนายนายโชติมัน (สงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ธนาคารรับมอบอำนาจจากธนาคารเข้าแจงความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. กรณีนางกมล (ขอสงวนนามสกุล) ลูกค้าของธนาคาร(ซึ่งเป็นคุณยายวัย 80 ปี)เข้ามาร้องเรียนธนาคารว่า เงินในบัญชีหายไป จำนวน 2,000,000 บาท จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 10:45 น. นางกมลฯ ผู้เสียหาย ได้เดินทางไปธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งย่านถนนประชาอุทิศ เพื่อทำการเปิดบัญชีออมทรัพย์ สมัครบัตรเดบิตและถอนเงินเพื่อจะโอนเงินไปยังบัญชีที่เปิดใหม่และโอนให้กับบุตรชาย นายพรชัย (ขอสงวนนามสกุล) (ผู้ต้องหารายนี้) ซึ่งเป็นพนักงานธนาคารทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้จัดการคอยให้บริการกับลูกค้า ในวันเวลาดังกล่าว ได้เข้ามาดูแลและช่วยทำธุรกรรมให้ โดยนายพรชัยฯได้ให้นำเอกสารมาให้นางกมลฯลงลายมือชื่อ จำนวน 2 ฉบับ โดยได้แอบนำใบคำขอถอนเงินโดยเขียนยอดเงินจำนวน 2,000,000บาท มาให้นางกมลฯลงลายมือชื่อด้วย จากนั้นได้มาทำการถอนเงินออกจากบัญชีของนางกมลฯจำนวน 2,000,000 บาท และนำสมุดบัญชีและบัตรเดบิตมามอบคืนให้กับผู้เสียหาย และจากการตรวจสอบพบว่า ใบคำขอถอนเงินดังกล่าวได้สูญหายไปจากธนาคารสาขา

ต่อมานางกมลฯ (ผู้เสียหาย) ได้ตรวจพบว่าเงินในบัญชีของตนหายไป จำนวน 2,000,000 บาท จึงได้ร้องเรียนกับทางธนาคาร ว่าตนไม่เคยเบิกถอนเงินสดยอดดังกล่าวมาก่อนแต่อย่างใด

ต่อมา พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ได้ทำการรวบรวมพยานขออนุมัติหมายจับ นายพรชัยฯ ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง และพนักงานของสถาบันการเงิน กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นการเสียหายแก่สถาบันการเงิน” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334(11) และพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน มาตรา 147 ประกอบมาตรา 145

จนกระทั่งวันที่ 3 ก.พ. 2566 พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นและจับกุมนายพรชัยฯ ผู้ต้องหา และตรวจพบทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ด้านนาพรชัยฯ (ผู้ต้องหา) ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวผู้ต้องหารายนี้ส่ง พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. กล่าวว่าในคดีนี้ผู้ก่อเหตุมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการธนาคาร อาศัยความสนิทสนมและความไว้ใจของลูกค้าธนาคารซึ่งเป็นผู้สูงอายุ จึงฉวยโอกาสลงมือก่อเหตุ ถึงแม้ว่าในชั้นนี้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่จากการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานชัดเจน ประกอบกับในคดีนี้เป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูง และเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบทรัพย์สินต้องสงสัยถึงการได้มาจำนวนหลายรายการ น่าเชื่อว่าผู้ต้องหาอาจจะเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อนหลายครั้ง ซึ่งจะได้ดำเนินการสืบสวนสวบสวนขยายผลดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

บก.ปอศ.เตือนภัยขอฝากถึงพี่น้องประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการทำธุรกรรมทางการเงิน การลงลายมือชื่อทุกครั้งให้ตรวจสอบโดยละเอียด และอย่าหลงเชื่อหรือไว้ใจแม้เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของสถานบันการเงินนั้นๆ ทุกครั้งที่ใช้บริการหรือทำธุรกรรมควรมีบุตรหลานหรือญาติที่มีความรู้และรอบคอบไปด้วย หากมีเบาะแสเกี่ยวกับบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยสามารถแจ้งเบาะแสมาได้โดยตรงที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง Website : https://cib.go.th/ หรือ Facebook ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts