วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
หน้าแรกการเมือง“เสกสกล-แรมโบ้อีสาน” แจ้งความ ปอท.เอาผิด ‘วีระ - เอกลักษณ์’ พรบคอมพ์ฯ

Related Posts

“เสกสกล-แรมโบ้อีสาน” แจ้งความ ปอท.เอาผิด ‘วีระ – เอกลักษณ์’ พรบคอมพ์ฯ

เวลา 10.30 น. วันที่ 6 ก.พ. 2566 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นายเสกสกล อัตถาวงศ์ (แรมโบ้อีสาน) ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายสนธิญา สวัสดี พร้อมทนายความเดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง ณัฐชยา วงศ์รุจิไพโรจน์ พงส.บก.ปอท.แจ้งความดำเนินคดี กับ นายวีระ สมความคิด และนายเอกลักษณ์ วารีชล ที่กล่าวใส่ร้ายป้ายสี อันเป็นเท็จลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ การนำข้อเท็จจริงที่ไม่ได้รับการตรวจสอบมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน ถือเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความ ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14 (1) ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงเกียรติยศ

นายเสกสกล เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายวีระ สมความคิด กับนายเอกลักษณ์ ที่ได้ไปกล่าวหาตนเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา
จริงแล้วตนอยากที่จะให้นายวีระตรวจสอบพฤติการณ์ของนายเอก คนนี้ก่อน ซึ่งคดีนี้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.65 ตนได้แจ้งความดำเนินคดีนายเอกฯ ไว้ที่ สน.ดุสิต ทาง สน.ดุสิตได้มีการออกหมายเรียกนายเอกลักษณ์ ผู้ต้องหารายนี้ไปพร้อมพวกไปเรียบร้อยแล้ว ตนไม่ทราบว่านายวีระ ทำไม่ไม่ตรวจสอบพฤติกรรมของนายเอกฯ คนนี้ก่อน นายวีระ ไม่รู้เรื่องข้อมูลตรงนี้เลย อยู่ก็ไปรับงานนี้มา

ที่ตนอยากให้ติดตามข้อมูลของนายเอกฯ คนนี้เพราะ ภารกิจของเขาคือ ตอนแรกมากล่าวหาว่าตนไปตบทรัพย์ผู้รับเหมารายใหญ่รายหนึ่งเรื่องงาน กทม. ปรากฎว่าในที่สุดผู้รับเหมารายนั้นก็มาเป็นพยานให้ตน มายืนยันว่าตนไม่ได้มีการไปตบทรัพย์อะไรเขาเลยสักบาทเดียว

เมื่อผู้รับเหมารายนั้นมาเป็นพยานให้ตน ทำให้นายเอกฯ เพี้ยนใหญ่มากล่าวหาตนว่าเอาเงินสดมาให้ตนวันนั้นวันนี้ เปลี่ยนเรื่องกล่าวหาตน ก็อยากจะขอให้เอาหลักฐานออกมาพิสูจน์กัน มีการโอนเงินอย่างไร วันไหนก็ขอให้เอามาแสดงเลย

ตนอยากบอกพฤติกรรมของนายเอกฯคนนี้อันตรายมาก ตนได้แจ้งสำนักงานปลัดฯ ในการรับเรื่องร้องเรียนแล้วให้ตรวจสอบติดตามดูพฤติการณ์ที่อันตรายของบุคคลนี้ ตนคิดว่าอาจจะมีอีกหลายบริษัทที่ถูกนายเอกฯกระทำแบบรายนี้ คือเวลาที่เขาไปรับงานบริษัทใดมาก็จะทำตัวเป็นนายหน้า วิ่งรับงานบริษัทมาว่าจะเคลียร์ให้ๆ ซึ่งบางบริษัทเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำ TOR นายเอกฯ คนนี้จะอาสาเคลียร์ให้ ด้วยการมาร้องเรียนสำนักนายกรัฐมนตรีบ้าง สำนักปลัดฯ บ้าง แล้วเอาเอกสารที่ออกเลขรับแล้วไปขู่เขา เห็นไหมเรื่องถึงนายกฯ หรือ รองนายกฯ แล้วนะ

ตอนที่ตนเป็นผู้ช่วยนายกฯ ก็รับเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนอยู่แล้ว ตนไม่คิดว่าการที่มาหาช่องทางการออกเลขหนังสือร้องเรียนแล้วเอาไปเที่ยวแบล็คเมล ตบทรัพย์หน่วยงานหรือบริษัทคู่แข่ง

ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าเขาจะเล่นงานหน่วยงานหนึ่ง เขาก็จะไปบอกว่าหน่วยงานนั้นเขียนTOR โดยไม่ชอบ เพราะบริษัทที่เขารับอาสามาไม่ได้ประโยชน์ ทำให้เข้าประมูลไม้ได้เพราะขาดคุณสมบัติ เขาก็จะเอกสารที่รับเรื่องไปขู่หน่วยงาน หรือถ้าบริษัทไหนได้รับการประมูล เขาก็จะล้มการประมูลเพื่อไปตบทรัพย์กับบริษัทที่ได้งานหลังจากผ่านการประมูลไปแล้ว
ลักษณะแบบนี้ก็คือการเอาหนังสือมาร้องเรียนนายกฯ ผ่านทางสำนักนายกฯ แล้วเอาเลขหนังสือนั้นไปเที่ยวไล่ตบทรัพย์ นี่คือพฤติกรรมของคนๆ นี้

ตนอยากจะบอกนายวีระให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายเอกลักษณ์คนนี้ให้ดีก่อนที่จะไปรับงานมาเล่นงานตน ตนไม่คิดที่จะไปเคลียร์อะไรกับคุณเลย ไม่มีค่าอะไร อดีตก็เคยติดคุกเขมรมาแล้ว ตนไม่ได้ให้ค่าให้ราคาอะไรที่จะต้องไปเคลียร์ด้วยเลย

สำหรับคดีต้นเรื่องนี้ตนแจ้งความไว้ตั้งแต่ เม.ย.65 ความคืบหน้าจนถึงขั้นออกหมายเรียกไปแล้ว ไม่รู้ทำไมถึงไปตกเป็นเครื่องมือของนายเอกฯ คนนี้ได้

ตนแจ้งความดำเนินคดีนายเอกลักษณ์ที่ไปกล่าวหาตนว่าตบทรัพย์แล้วหลายท้องที่ ประกอบด้วย 1.สน.ดุสิต 2.สน.พหลโยธิน 3.สน.บางซื่อ 4.สน.ลุมพินี 5.สน.คัยนานยาว และ ที่ บก.ปอท.นี่เป็นที่ 6.

พฤติการณ์ของนายเอกฯ จะข่มขู่กรรมโชกทรัพย์ไม่หยุด อยากการที่มากล่าวหาตนทำร้ายเขาที่โรงแรมเซ็นทรัล เซนทารา ลาดพร้าว ขณะตนนั่งกินกาแฟกับเพื่อนสองคนในมุมหนึ่ง ถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็นว่านั่งอยู่เลย อยู่ๆ เขาก็เดินปรี่เข้ามาหาใส่ตนจะทวงทำให้ดูเหมือนตนเป็นหนี้เขาอยู่ ถามตนจะเอายังไงๆ ว่ามา ตนนั่งฟังเฉย พอยกมือถือขึ้นมา เขาก็ขู่อย่าถ่ายผมนะ ปรี่เข้ามาอีก ตนก็ลุกขึ้นยืน ผลักออกไปเพราะกลัวว่าเขาจะทำร้ายตน แค่นั้นเองไม่ได้ลงไม้ลงมืออะไร ตนจึงไปแจ้งความ สน.พหลโยธินเมื่อ 23 ม.ค.66 ว่านายเอกลักษณ์คุกคามตน แต่เขากลับไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ว่าตนทำร้ายเขา ที่ สน.คันนายาว ในอีก 7 วัน แทนที่จะแจ้งความท้องที่เกิดเหตุเหมือนที่ตนแจ้งความในเรื่องเดียวกัน ทำให้ตนต้องไปแจ้งความ สน.คันนายาวว่านายเอกลัษณ์แจ้งความเท็จ

ตนก็อดคิดไม่ได้การออกมาโตมตีตนครั้งนี้ไม่รู้ไปรับง่รใครมาหรือเปล่า นายวีระบอกตนหลบตนหนี ขอยืนยันว่าคนอย่างผมไม่เคยหลบ แต่จะยืนหยัดบนหลักฐานความเป็นจริง นายวีระได้เจอตนแน่ แต่เป็นการเจอในศาล นายวีระเคยติดคุกกัมพูชามาแล้ว คราวนี้จะเอาติดคุกเมืองไทยอีกคดีหนึ่ง

ด้าน ”หนุ่มเสก” เสกสรร ชัยเจริญ บอกว่า วันนี้ตนมาในนามตัวแทนพรรคฯ มาให้กำลังใจคุณเสกสกล แรมโบ้อีสานที่โดนกล่าวหาให้เสียหาย
ส่วนตนเองทางพรรคกำหนดไว้ให้ลงปาร์ตี้ลีส จะได้มีโอกาสไปช่วยผู้สมัครพรรคคนอื่นๆ ได้สะดวก เพราะถ้าลงสมัคร สส.แบบเขตก็จะต้องดูแลเฉพาะพี่น้องประชาชนในเขตที่ลงเท่านั้น

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งและรวบรวมหลักฐานที่นายเสกสกล นำมามอบให้ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts