พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการ ปคม ในฐานะโฆษกกองบัญชาการสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะทำงานตรวจสอบคดีสารวัตรซัวครั้งที่ 2 ซึ่งมีพลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมคณะทำงานตรวจสอบปมสารวัตรซัว เพื่อติดตามความคืบหน้าภายหลังจากแบ่งชุดทำงานไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น ครั้งนี้นอกจากตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลางแล้ว ยังมีพลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลร่วมในคณะทำงานด้วย โดยหน่วยงานแต่ละส่วนได้นำเสนอข้อมูลความคืบหน้ารายงานในที่ประชุม เบื้องต้นพบว่า มีบริษัท มูลนิธิ องค์กร สหกรณ์กว่า 60 แห่งที่มีความเกี่ยวข้อง เปิดดำเนินการมาแล้ว 5-6 ปี ในรูปแบบธุรกิจ การค้า หรือการเกษตร มีที่ตั้งอยู่ทั้งในไทยและต่างประเทศ 5-6 ปี และบางส่วนไม่ได้ดำเนินงานจริง นอกจากนี้ ยังพบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกประมาณ 150 คน ในจำนวนนี้มีบุคคลที่มีเสียงด้วย ซึ่งทั้ง 150 คนจะมีหน้าที่แตกต่างกันไป ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ นอมินี อีกทั้งบางรายยังปรากฏชื่อซ้ำกันในหลายบริษัทดังกล่าว
โดยข้อมูลทั้งหมดนี้เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบการถือครองทรัพย์ การเสียภาษีต่าง ๆ ซึ่งหากสืบสวนพบความเชื่อมโยงไปถึงใคร ก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบด้วย
ส่วนกรณีนายพลจ จาน หรือ รูบี้ หรือข้าราชการตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะต้องสอบสวนให้ปรากฏข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่าางการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งเท่าที่มีตอนนี้ยังไม่เพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด ส่วนเว็บไซต์การพนันต่าง ๆ ที่ยังเปิดให้บริการอยู่นั้น ตำรวจต้องดำเนินการทั้งการจับกุมและประสานกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อปิดกั้นเว็บไซต์ ส่วน url ที่อยู่ในต่างประเทศนั้นอาจดำเนินการได้ยาก เนื่องจากบางประเทศเว็บพนันออนไลน์ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย