วันเสาร์, กันยายน 21, 2024
หน้าแรกข่าวประชาสัมพันธ์กสม. แถลงข่าวเด่นประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 9/2566

Related Posts

กสม. แถลงข่าวเด่นประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 9/2566

กสม. แนะกรมราชทัณฑ์และเรือนจำกลางเขาบิน คำนึงถึงสุขภาพและความพร้อมทางร่างกาย ก่อนส่งผู้ต้องขังที่มีโรคประจำตัวเข้ารับการฝึกภาคสนาม หวั่นอันตรายถึงชีวิต-เสนอแก้ไขกฎหมายการจัดสรรที่ดิน ให้หมู่บ้านจัดสรรที่ผู้จัดสรรที่ดินทิ้งร้างและไม่สามารถจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้าน สามารถโอนสาธารณูปโภคเป็นสาธารณประโยชน์ได้

วันที่ 2 มีนาคม 2566 เวลา 10.30 น. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนายชนินทร์ เกตุปราชญ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แถลงข่าวเด่นประจำสัปดาห์ครั้งที่ 9/2566 โดยมีวาระสำคัญดังนี้

  1. กสม. แนะกรมราชทัณฑ์และเรือนจำกลางเขาบิน คำนึงถึงสุขภาพและความพร้อมทางร่างกาย ก่อนส่งผู้ต้องขังที่มีอาการเจ็บป่วยเข้ารับการฝึกภาคสนาม

นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ร้องรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเขาบิน จังหวัดราชบุรี เมื่อเดือนตุลาคม 2565 ระบุว่า ผู้ร้องได้รับความเดือดร้อนจากการที่เจ้าหน้าที่เรือนจำนำผู้ร้องซึ่งป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงไปฝึกตามมาตรการภายใต้โครงการส่งเสริมความมีระเบียบวินัย คุณธรรม และจริยธรรมของเรือนจำกลางเขาบิน ซึ่งเป็นการฝึกภาคสนาม เช่น การให้ยืนกลางแจ้งเป็นเวลานาน และการให้ฝึกท่าบริหารร่างกายต่าง ๆ จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพและร่างกายของผู้ร้อง เช่น
มีอาการปวดแสบปวดร้อน หน้ามืด จึงขอให้ตรวจสอบ

กสม. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่า กรณีตามคำร้องมีประเด็นที่ต้องพิจารณาว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางเขาบินในการนำตัวผู้ร้องไปฝึกตามโครงการส่งเสริมความมีระเบียบวินัยฯ เป็นการทรมานผู้ร้องอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือไม่

จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ของเรือนจำกลางเขาบินได้นำผู้ร้องไปเข้ารับการฝึกในโครงการดังกล่าวตามหน้าที่และอำนาจ และผู้ร้องสามารถลาฝึกได้หากมีอาการเจ็บป่วย โดยกรณีตามคำร้องนี้เป็นประเด็นเดียวกันกับเรื่องที่ผู้ร้องได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองเพชรบุรี และศาลปกครองเพชรบุรีได้มีคำพิพากษาแล้ว เมื่อเดือนกันยายน 2564 ซึ่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 39 (1) ประกอบมาตรา 39 วรรคสอง บัญญัติห้ามมิให้ กสม. รับเรื่องที่มีการฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ในศาลหรือเรื่องที่ศาลมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้ว ไว้พิจารณา ในชั้นนี้จึงเห็นควรยุติเรื่อง

อย่างไรก็ตาม กสม. มีความเห็นว่าการนำผู้ต้องขังที่มีโรคประจำตัวไปเข้ารับการฝึกตามโครงการดังกล่าวซึ่งมีกิจกรรมในลักษณะที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้เข้ารับการฝึก สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ผู้เข้ารับการฝึกได้รับอันตรายแก่ชีวิตและร่างกายอันเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการดำเนินกิจกรรมตามโครงการดังกล่าวของเรือนจำกลางเขาบิน และเพื่อให้เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ตระหนักถึงการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่มีลักษณะเป็นกลุ่มเฉพาะที่อาจได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างไปจากมาตรการทั่วไปของเรือนจำตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันมีลักษณะเป็นการทรมานและละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กสม. ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 จึงเห็นควรมีข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อกรมราชทัณฑ์ และเรือนจำกลางเขาบิน สรุปได้ดังนี้

ให้กรมราชทัณฑ์และเรือนจำกลางเขาบินคำนึงถึงประวัติด้านสุขภาพของผู้ต้องขัง ความเห็นของแพทย์ และความพร้อมด้านร่างกายของผู้ต้องขัง โดยเฉพาะผู้ต้องขังที่มีอาการเจ็บป่วยหรือมีโรคประจำตัว เพื่อประกอบการประเมินความเสี่ยงและป้องกันเหตุที่จะเกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้ต้องขัง ก่อนที่จะให้ผู้ต้องขังเข้ารับการฝึกตามโครงการส่งเสริมความมีระเบียบวินัยฯ หรือโครงการอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิบัติในระบบราชทัณฑ์เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่มุ่งจะแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิดให้กลับเข้าสู่สังคมได้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts